ประวัติความเป็นมา 
ชาร์ลส์ รัสเซลล์ ก่อตั้งสมาคม Zion’s Watch Tower Tract Society ในปี 1881 เพื่อเผยแพร่คำสอนอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา องค์กรได้เปลี่ยนชื่อเป็นพยานพระยะโฮวาห์ในปี 1931
รัสเซลล์เขียนหนังสือเพื่อการศึกษาพระคัมภีร์จำนวน 6 ชุด เขาบอกว่าผู้คนควรอ่านหนังสือของเขาโดยไม่มีพระคัมภีร์ดีกว่าอ่านพระคัมภีร์โดยไม่มีหนังสือของเขา เขาบอกว่าถ้าใครเลิกอ่านหนังสือของเขาและอ่านแต่พระคัมภีร์เท่านั้น คนนั้นจะอยู่ในความมืดภายในสองปี แต่ถ้าใครอ่านแต่หนังสือของเขาโดยไม่มีพระคัมภีร์ คนนั้นจะอยู่ในความสว่าง
พระคัมภีร์กล่าวว่าพระวจนะของพระเจ้าเป็นความสว่างที่นำทางเรา ดูใน สดุดี 119:105 พระวิญญาณบริสุทธิ์สอนผู้ติดตามพระคริสต์แม้ว่าเราจะไม่มีคำสอนของมนุษย์เลยก็ตาม ดูใน 1 ยอห์น 2:27 
หลักคำสอนของพยานพระยะโฮวาห์ถูกเปลี่ยนแปลงหลายต่อหลายครั้ง
พวกผู้นำของพยานพระยะโฮวาห์ได้สร้างคำเผยพระวจนะมากมายที่ไม่เกิดขึ้นจริง ยกตัวอย่างเช่น ผู้นำคนที่สองคือรูเธอร์ฟอร์ด ที่เผยพระวจนะว่าอับราฮัม อิสอัค และยาโคบจะฟื้นขึ้นมาในปี 1925 และใช้ชีวิตในบ้านหรูหราที่เขาได้เตรียมไว้ให้ แต่ทั้งสามคนก็ไม่ฟื้นขึ้นมา เขาจึงอาศัยอยู่ในบ้านนั้นเอง
พระคัมภีร์กล่าวว่าถ้าคำเผยพระวจนะของใครไม่เกิดขึ้นจริง เขาก็ไม่สมควรได้รับความน่าเชื่อถือในฐานะผู้เผยพระวจนะ ดูใน เฉลยธรรมบัญญัติ 18:22 
พยานพระยะโฮวาห์เชื่อว่าคริสตจักรอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นของซาตาน และเชื่อว่าในที่อื่นไม่มีความรอดนอกจากผ่านทางองค์กรของพวกเขาเท่านั้น
พระเยซูบอกกับพวกสาวกว่าไม่ใช่ผู้รับใช้ของพระเจ้าทุกคนจะอยู่ในองค์กรเดียวกัน ดูใน ลูกา 9:49-50 ความรอดพบได้ผ่านทางพระเยซูเท่านั้น ไม่ใช่องค์กรใด ๆ ดูใน กิจการ 4:10, 12 
► อะไรบ้างที่คุณมองเห็นแล้วซึ่งบ่งชี้ว่าพยานพระยะโฮวาห์ไม่ใช่ศาสนาคริสต์ตามพระคัมภีร์?
อิทธิพลในปัจจุบัน 
พยานพระยะโฮวาห์อ้างว่าพวกเขาทำงานใน 239 ประเทศและจัดพิมพ์เอกสารมากกว่า 900 ภาษา พวกเขาพิมพ์วรรณกรรมไปแล้วประมาณ 40000 ล้านชิ้น[1]  มีคริสตจักรเกือบ 118,000 แห่ง และมีสมาชิกที่กระตือรือร้นมากกว่า 8 ล้านคน[2] 
สำนักงานใหญ่ของพยานพระยะโฮวาห์ตั้งอยู่ในบรูคลิน นิวยอร์ก
หลักคำสอนของพยานพระยะโฮวาห์ที่เข้าใจได้ยาก 
พยานพระยะโฮวาไม่ได้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้งของรัฐบาลหรือดำรงตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาล เพราะพวกเขาเชื่อว่าตนแยกจากอาณาจักรของโลกนี้
ในพระคัมภีร์ เหล่าบุรุษอย่างเช่นเนหะมีย์ โมรเดคัย และดาเนียล ต่างรับใช้พระเจ้าแต่ก็ทำงานเพื่อประเทศชาติที่นับถือศาสนาอื่นด้วย ดูใน เนหะมีย์ 1:11-2:1; เอสเธอร์ 8:2, เอสเธอร์ 10:3; และ ดาเนียล 6:1-3 
พวกเขาไม่ได้รับใช้ในกองทัพและไม่ได้เชื่อว่าสงครามคือสิ่งที่ถูกต้อง
พวกเขาไม่ได้เฉลิมฉลองในวันหยุดใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดแห่งชาติ วันหยุดของคริสเตียน หรือวันเกิด เพราะพวกเขาเชื่อว่าการเฉลิมฉลองทั้งหมดเป็นการทำตามประเพณีของคนนอกศาสนา
พวกเขาไม่ยอมรับการถ่ายเลือด แม้กระทั่งเพื่อช่วยชีวิต เพราะมีพระคัมภีร์ที่ห้ามรับประทานเลือด
พวกเขาไม่ถวายสิบลด และศิษยาภิบาลของพวกเขาไม่ได้รับเงินเดือน
พยานพระยะโฮวาห์ไม่เชื่อว่าบุคคลหนึ่งสามารถได้รับความรอดทันทีโดยมีความเชื่อในพระคริสต์ พวกเขาเชื่อว่าบุคคลนั้นจะต้องเข้าร่วมในองค์กร เรียนรู้หลักคำสอน และเริ่มต้นมีส่วนร่วมตามข้อกำหนดต่าง ๆ ความรอดเป็นกระบวนการ และช่วงวินาทีที่คน ๆ หนึ่งจะรู้ได้ว่าเขาได้รับความรอดแล้วนั้นไม่มีกำหนดตายตัว
ในพันธสัญญาใหม่ ผู้คนมาเป็นคริสเตียนในช่วงวินาทีที่พวกเขากลับใจใหม่และเชื่อในพระคริสต์ ดูใน กิจการ 2:41 และ กิจการ 8:26-39 เรื่องนี้เป็นไปได้เพราะเราได้รับความรอดโดยพระคุณและไม่ใช่ด้วยการกระทำ 
สมาชิกทุกคนมีข้อกำหนดให้ส่งรายงานประจำเดือนเกี่ยวกับกิจกรรมการเป็นพยาน สมาชิกที่ไม่ส่งรายงานจะถูกตัดออกจากรายชื่อสมาชิกที่กระตือรือร้นและถือว่าไม่ได้รับความรอด
พระคัมภีร์กล่าวว่า ในสวรรค์นั้นพระเจ้ามีรายชื่อของบรรดาคนที่ได้รับความรอด ดูใน ลูกา 10:20 และ วิวรณ์ 21:27 รายชื่อนั้นไม่ได้เป็นขององค์กรหนึ่งบนโลกนี้ 
► ตามข้อกำหนดของพยานพระยะโฮวาห์ มนุษย์คนหนึ่งจะรอดได้อย่างไร?
[3] พยานพระยะโฮวาห์ไม่ยอมรับว่าไม้กางเขนเป็นสัญลักษณ์ของคริสเตียน และพวกเขาเชื่อว่าพระเยซูตายบนต้นเสาตรง
พวกเขากล่าวว่าหลักคำสอนเรื่องตรีเอกานุภาพไม่ควรเป็นที่ยอมรับเพราะเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลและเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจได้ เหมือนกับว่าไม่ควรมีสิ่งใดในลักษณะอันเป็นธรรมชาติของพระเจ้าที่ยากเกินกว่าความเข้าใจของเรา
พยานพระยะโฮวาห์เชื่อว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นพลังที่ไม่ใช่บุคคลซึ่งมาจากพระเจ้า โดยเปรียบกับพลังงานไฟฟ้า
พวกเขาอ้างว่าเชื่อในการฟื้นคืนชีวิตของพระเยซู แต่พวกเขาเชื่อว่ามีเพียงวิญญาณของพระองค์เท่านั้นที่ฟื้น ไม่ใช่ร่างกาย
► ทำไมหลักคำสอนเหล่านี้จึงถูกเรียกว่าเป็น “หลักคำสอนที่เข้าใจได้ยาก”?
หลักคำสอนที่มีข้อผิดพลาดร้ายแรงที่สุดของพยานพระยะโฮวาห์คือการปฏิเสธความเป็นพระเจ้าของพระคริสต์และของพระวิญญาณบริสุทธิ์
พยานพระยะโฮวาห์อ้างว่าเป็นศาสนาคริสต์ของแท้ พวกเขาอ้างว่าคริสตจักรอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นของปลอม แต่หากบุคคลใดเข้าใจและเชื่อหลักคำสอนทั้งหมดของพยานพระยะโฮวาห์ เขาก็ไม่เชื่อข่าวประเสริฐตามพระคัมภีร์และไม่ได้เป็นคริสเตียน
กลยุทธ์ของพยานพระยะโฮวาห์ 
คนที่สนใจเข้าร่วมเป็นพยานจะต้องผ่านการศึกษาพระคัมภีร์หลายเดือน เขาต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อทำตามสิ่งที่เขากำลังเรียนรู้ จากนั้นเขาจะได้รับบัพติศมาและกลายเป็น “ผู้เผยแพร่” และต้องเผยแพร่วรรณกรรมขององค์กร
โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้เผยแพร่จะต้องใช้เวลา 10000 ชั่วโมงเพื่อเป็นพยานก่อนที่จะได้สมาชิกใหม่หนึ่งคน[4] 
สมาชิกแต่ละคนซื้อเอกสารที่จัดพิมพ์จากองค์กรเพื่อนำไปเผยแพร่
พวกเขาไม่ได้เรียกที่ประชุมสมาชิกของพวกเขาว่าเป็นคริสตจักร พวกเขาเชื่อว่าคริสตจักรทั้งหมดเป็นของซาตาน พวกเขาเรียกอาคารของพวกเขาว่าเป็น “หอประชุมแห่งราชอาณาจักร”
พันธสัญญาใหม่ถูกบันทึกไว้เพื่อคริสตจักร ดูใน วิวรณ์ 1:4 และ 1 โครินธ์ 14:33 
พวกเขาพยายามใช้พระคัมภีร์เพื่อพิสูจน์หลักคำสอนของพวกเขาต่อผู้คนที่เชื่อในพระคัมภีร์แต่ไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับพระคัมภีร์ พวกเขาจัดพิมพ์พระคัมภีร์ฉบับของพวกเขาเอง มีชื่อว่า ฉบับแปลนิวเวิลด์ โดยทำการเปลี่ยนแปลงเพื่อสนับสนุนหลักคำสอนของตัวเอง พวกเขาเปลี่ยนพระคัมภีร์หลายข้อที่บอกเป็นนัยถึงความเป็นพระเจ้าของพระคริสต์ พระคัมภีร์ฉบับนี้ไม่ได้ผลิตขึ้นโดยนักวิชาการด้านภาษาพระคัมภีร์จริง ๆ
[5] พวกเขาพูดว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้าและเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของโลก และพูดว่าพระองค์ทำให้ความรอดเป็นไปได้ พวกเขาเชื่อว่าพระเยซูเป็นสิ่งแรกที่พระเจ้าได้สร้าง แต่พระองค์เป็นเพียงมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่ง ไม่ได้เป็นพระเจ้า
► ใน โคโลสี 1:16-17 ฉบับแปลนิวเวิลด์เพิ่มคำว่า “อื่น” เข้าไป ดังนั้นข้อพระคัมภีร์จึงกล่าวว่าพระเยซูทรงสร้างสิ่งอื่น ๆ ทั้งหมด ทรงอยู่ก่อนสิ่งอื่น ๆ ทั้งหมด และเพื่อพระองค์ สิ่งอื่น ๆ ทั้งหมดจึงดำรงอยู่ คุณคิดว่าทำไมพยานพระยะโฮวาห์จึงเพิ่มคำนั้นเข้าไป? 
► เวลานี้ย้อนกลับไปอ่านข้อความที่มีตัวหนาและตัวเอียง กับข้อพระคัมภีร์แต่ละข้อ
 
[3] 
“ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซู คริสตเจ้า  พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า  ทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนกาลเวลา ทรงเป็นพระเจ้าจากพระเจ้า เป็นองค์ความสว่างจากองค์ความสว่าง ทรงเป็นพระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้ มิได้ถูกสร้างแต่ทรงบังเกิดร่วมพระธรรมชาติเดียวกับพระบิดา... ข้าพเจ้าเชื่อในพระจิต พระเจ้าผู้ทรงบันดาลชีวิต ทรงเนื่องมาจากพระบิดาและพระบุตร ทรงรับการถวายสักการะและพระสิริรุ่งโรจน์ร่วมกับพระบิดาและพระบุตร” 
- หลักข้อเชื่อไนซีน 
(เขียนโดยคริสตจักร ในปี ค.ศ. 325)
 
[5] 
“การเป็นขึ้นจากความตายเป็นหลักฐานยืนยันความจริงของพระเยซู ทั้งอัตลักษณ์ของพระเยซูและความจริงเกี่ยวกับพระราชกิจของพระองค์ได้รับการรับรองตลอดไปเป็นนิตย์”
- Willard Taylor 
พระเจ้า มนุษย์ และความรอด
 
                                     
                                    
                                    
                                        
                                                                                                                                    
                                                
                                                     
                                                    Previous
                                                 
                                                                                    
                                                                                                                                    
                                                
                                                    Next