จอห์น เวสลีย์ให้คำแนะนำที่ใช้การได้บางประการเกี่ยวกับวิธีแยกแยะน้ำพระทัยของพระเจ้า ท่านกล่าวว่าเรารู้ได้ถึงน้ำพระทัยทั่วไปของพระเจ้าที่มีต่อเราซึ่งปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ว่าเรานั้นต้องเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์และบรรลุผลดี ดังนั้นเราต้องพิจารณาว่าทางเลือกไหนจะทำให้เราบริสุทธิ์และบรรลุผลดีได้มากที่สุดเมื่อจะตัดสินใจอย่างเจาะจง 
เราเรียนรู้จากประสบการณ์ว่าสถานการณ์แวดล้อมไหนบ้างเป็นประโยชน์ฝ่ายวิญญาณและสถานการณ์แวดล้อมไหนบ้างเป็นอันตรายฝ่ายวิญญาณ  สถานการณ์แวดล้อมบางอย่างเป็นอันตรายฝ่ายวิญญาณต่อทุกคน สถานการณ์แวดล้อมบางอย่างเป็นอันตรายฝ่ายวิญญาณต่อบางคน ตราบเท่าที่เราทำได้ เราควรวางตัวเองอยู่ในสถานการณ์แวดล้อมที่ช่วยให้เราเข้มแข็งฝ่ายวิญญาณและควรหลีกเลี่ยงสถานการณ์ต่างๆที่จะนำเราสู่การทดลอง (1 โครินธ์ 10:12-13)
เราแยกแยะได้โดยเหตุผลและประสบการณ์และโดยคำแนะนำของคนอื่นๆว่าทางเลือกใดจะช่วยให้เราบรรลุสิ่งที่ดีที่สุดได้ 
โดยทั่วไปแล้วพระเจ้าไม่ทรงเปิดเผยน้ำพระทัยของพระองค์โดยการเปิดเผยพิเศษ พระองค์ทรงคาดหวังเราให้ประยุกต์ใช้หลักการจากพระคัมภีร์เมื่อเราใช้เหตุผลและตรวจสอบสถานการณ์แวดล้อมด้วยความระมัดระวังรอบคอบ  พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำเราแม้กระทั่งในเวลาที่เราไม่ได้ตระหนักถึง เราไม่ควรคาดหวังการเปิดเผยสำหรับการตัดสินใจส่วนใหญ่แต่อธิษฐานขอสติปัญญาและความเข้าใจ
คนที่อ้างถึงคำชี้แนะพิเศษจากพระเจ้าบางครั้งก็ปฏิเสธที่จะฟังคนอื่น (สุภาษิต 12:15) พวกเขาโกรธเวลาที่คนถามถึงการตัดสินใจของพวกเขา พวกเขาแสดงความหยิ่งยโสและความดื้อรั้นมากกว่าความถ่อมใจเนื่องจากมองตัวเองว่าได้รับการสั่งสอนโดยตรงจากพระเจ้าจึงละเลยคำปรึกษาของมนุษย์ทั้งหมดยกเว้นสิ่งที่เห็นด้วยกับพวกเขา
เมื่อเป็นคำถามต่างๆที่พระคัมภีร์มีคำตอบไม่ชัดเจน จะดีกว่าที่ไม่อ้างเสมอว่าพระเจ้าทรงบอกให้ทำอะไรและบอกว่ากำลังพยายามตัดสินใจอย่างดีที่สุด ถ้าหากเขาทำผิดพลาดแล้วพูดว่าเขาได้รับคำชี้แนะจากพระเจ้านั่นจะทำให้คนสับสน เช่นเดียวกัน คนไม่ควรปฏิเสธคำแนะนำของคนอื่นโดยอ้างว่ามีความรู้พิเศษถึงน้ำพระทัยของพระเจ้า
นอกเหนือไปจากหลักการที่เวสลีย์ให้แล้ว เมื่อคุณคิดถึงทางเลือกต่างๆของคุณ ให้คุณพิจารณาว่า
1. ทางเลือกนั้นสอดคล้องกับพระบัญชาจากพระคัมภีร์อันชัดแจ้งหรือเปล่า? พระเจ้าไม่เคยประสงค์ให้คุณไม่เชื่อฟังพระวจนะของพระองค์
2. ทางเลือกนั้นสอดคล้องกับสิ่งสำคัญอันดับแรกจากพระคัมภีร์หรือเปล่า? พระคัมภีร์แสดงให้เราเห็นถึงสิ่งต่างๆที่สำคัญต่อพระเจ้า การตัดสินใจของคุณยกให้สิ่งต่างๆที่สำคัญอันดับแรกอยู่เป็นอันดับแรกหรือเปล่า?
3. ทางเลือกนั้นสอดคล้องกับมุมมองที่เป็นจริงของสถานการณ์แวดล้อมหรือเปล่า? คุณควรเห็นวิธีที่พระเจ้าทรงเตรียมสถานการณ์ของคุณสำหรับการตัดสินใจนี้
4. ทางเลือกนั้นมีเหตุผลหรือเปล่า? บางครั้งพระเจ้าอาจทรงนำคุณให้ทำบางอย่างที่ดูเหมือนไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น พระองค์จะทรงทำให้น้ำพระทัยของพระองค์ชัดแจ้ง อย่าปฏิเสธเหตุผลในฐานะเครื่องมือช่วยคุณแยะแยะน้ำพระทัยของพระเจ้า
5. นั่นเป็นพฤติกรรมแบบคริสเตียนหรือเปล่า? อย่าคิดว่าทุกสถานการณ์พิเศษเสียจนคุณสามารถทำบางอย่างที่โดยปกติแล้วจะเป็นที่ไม่พอพระทัยของพระเจ้าได้
6. ทางเลือกนั้นสอดคล้องกับการรักคนอื่นเหมือนรักตัวคุณเองหรือเปล่า? แรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวจะบิดเบือนการแยกแยะของคุณ
7. ทางเลือกนั้นจะเป็นอิทธิพลที่ดีหรือเปล่า? แล้วถ้าหากคนอื่นๆทำอย่างที่คุณกำลังทำอยู่ล่ะ? นั่นจะดีหรือเปล่า?
8. ทางเลือกนั้นได้รับการยืนยันโดยผู้ให้คำแนะนำที่ยำเกรงพระเจ้าหรือเปล่า? เราทุกคนรู้ดีถึงวิธีหาเพื่อนที่จะเห็นด้วยกับเราแต่คนที่ดูเหมือนว่าเป็นฝ่ายวิญญาณและมีปัญญาที่สุดพูดเกี่ยวกับการตัดสินใจของคุณว่าอย่างไรบ้าง?
เวลาที่น้ำพระทัยของพระเจ้าเป็นสิ่งที่ผิดธรรมดามากๆ พระองค์ทรงทำให้คุณรู้ถึงน้ำพระทัยนั้นอย่างเกินความสงสัย ทูตสวรรค์หรือนิมิตหรือพุ่มไม้ที่ไหม้ไฟให้ความแน่ใจแก่บางคนในอดีต พระเจ้าอาจเพียงประทานการรับรองภายในที่เกินความสงสัย แต่เมื่อไม่มีสาสน์อันชัดแจ้งจากพระเจ้า คุณควรทำตามหลักการที่พึ่งพาได้สำหรับการแยกแยะทางเลือกที่ถูกต้อง อย่าคาดหวังว่าจะได้รับการเปิดเผยพิเศษสำหรับการตัดสินใจทุกครั้ง ถ้าหากคุณใช้เหตุผลด้วยความจริงใจและจริงจังกับสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ถูกต้อง พระเจ้าจะทรงสัตย์ซื่อแนะนำการตัดสินใจของคุณครับ
ในพระธรรมโรม 12:1-2 เปาโลเขียนว่า
พวกที่ไม่มีธรรมบัญญัติและทำบาป จะต้องพินาศโดยไม่อ้างธรรมบัญญัติ และพวกที่มีธรรมบัญญัติและทำบาป ก็จะต้องถูกพิพากษาตามธรรมบัญญัติ อย่าลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม
 
พระคัมภีร์ข้อนี้แสดงว่าสภาวะฝ่ายวิญญาณของคนส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ คนต้องต้องอุทิศตัวเองอย่างสมบูรณ์ต่อพระเจ้าเพื่อจะพบน้ำพระทัยของพระเจ้า การตัดสินใจของคริสเตียนแตกต่างจากการตัดสินใจของโลกเพราะเขาไม่ได้ “เป็นเหมือนกับโลก” แต่ได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่และตัดสินใจด้วย “ความคิดที่เริ่มต้นใหม่”
แรงจูงใจเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการแยะแยะคำชี้แนะของพระเจ้า คนที่แสวงหาน้ำพระทัยพระเจ้าเพียงเพื่อเขาจะตัดสินใจได้ว่าต้องทำอะไรหรือไม่ทำอะไรอาจจะสับสนได้ ถ้าหากคนแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้าตามเครื่องมือจากพระคัมภีร์และมีเหตุผลและแสวงหาด้วยความมุ่งมั่นอย่างหมดใจจะไม่พลาดน้ำพระทัยของพระเจ้าครับ
                                     
                                    
                                    
                                        
                                                                                                                                    
                                                
                                                     
                                                    Previous
                                                 
                                                                                    
                                                                                                                                    
                                                
                                                    Next