เราใช้คำพูดของเราเพื่อบรรลุสิ่งดีและหลีกเลี่ยงสิ่งชั่วร้ายได้อย่างไร? พระคัมภีร์ให้หลักการบางอย่างคือ
(1) อย่าพูดมากเกินไป 
คนเขลาพูดมากซ้ำซาก... (ปัญญาจารย์ 10:14)
พูดมากคำย่อมทำบาปได้ แต่คนที่ยับยั้งปากของตนก็เป็นคนฉลาด (สุภาษิต 10:19)
แม้คนโง่หากนิ่งเสียก็นับว่ามีปัญญา เมื่อเขาปิดปากของตนก็นับว่ามีความคิด (สุภาษิต 17:28)
 
ดังนั้นอย่าพูดมากเกินไป คนพูดมากเกินไปไม่ให้คุณค่าอย่างเหมาะสมกับคำพูดของตัวเองและคำพูดของคนอื่น เขาพูดสิ่งต่างๆที่ไม่ได้หมายความอย่างนั้นจริงๆและเขาทึกทักว่าคนอื่นก็ทำแบบเดียวกัน เขาให้ความคิดเห็นโดยไม่มีความรู้ คุณไม่ต้องให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่คุณไม่มีความรู้ ไม่ใช่ทุกความคิดเห็นมีความเห็นเท่าเทียมกัน
(2) อย่าพูดก่อนคิด 
อย่าให้ความรู้สึกของคุณทำให้คุณพูดสิ่งที่ตัวคุณจะเสียใจในภายหลัง
น้องที่รักของข้าพเจ้า จงเข้าใจในเรื่องนี้ คือให้ทุกคนไวในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ (ยากอบ 1:19)
คนโง่ระบายความโกรธออกมาเต็มที่ แต่คนมีปัญญาย่อมยับยั้งไว้เงียบๆ (สุภาษิต 29:11)
คนที่โกรธช้าก็มีความเข้าใจมาก แต่คนที่โกรธเร็วก็ยกย่องความโง่ (สุภาษิต 14:29)
 
(3) อย่าตัดสินสถานการณ์เมื่อแรกเห็น 
คนตอบก่อนจะได้ยิน ก็เป็นความโง่และความขายหน้าแก่เขา (สุภาษิต 18:13)
ผู้แถลงคดีของตนก่อนดูเหมือนเป็นฝ่ายถูก จนกว่าฝ่ายตรงข้ามจะมาสอบสวนเขา (สุภาษิต 18:17)
 
ความขัดแย้งส่วนใหญ่เกิดจากความเข้าใจผิด เวลาและความระมัดระวังรอบคอบคลี่คลายความขัดแย้งต่างๆได้ ถ้าหากคนที่มีชื่อเสียงว่าเป็นคนซื่อตรงพูดบางอย่างที่ดูเหมือนผิดสำหรับคุณ อย่าด่วนตัดสินเขาครับ
คนที่ผ่านไปยุ่งเรื่องทะเลาะวิวาทซึ่งไม่ใช่เรื่องของตน ก็เหมือนคนดึงหูสุนัข (สุภาษิต 26:17)
 
(4) ระวังอารมณ์ขัน 
คำพูดสร้างผลกระทบได้ ดังนั้นอารมณ์ขันที่ไม่มีการควบคุมก็เหมือนกับอาวุธที่อยู่ในมือของคนบ้า
คนบ้าขว้างดุ้นไฟ ลูกธนู และความตายฉันใด คนที่ล่อลวงเพื่อนบ้านของตน และกล่าวว่า “ข้าล้อเล่น” ก็ฉันนั้น (สุภาษิต 26:18-19)
 
อย่าทำให้คนทำผิดพลาดร้ายแรงเนื่องจากเชื่อเรื่องตลกของคุณ อย่าบอกพวกเขาว่าคุณจริงจังเวลาที่คุณไม่ได้จริงจัง - พวกเขาจะไม่เชื่อคุณอีก อย่าทำตลกกับปมด้อยต่างๆที่คนทำอะไรกับมันไม่ได้ อย่าทำตลกเกี่ยวกับความล้มเหลวของบางคน อย่าเล่าเรื่องตลกที่ทำให้บาปดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ
(5) อย่าพูดกับผิดคน มีหลายสถานการณ์ที่สิ่งนี้อาจเกิดขึ้น 
ความสัมพันธ์เพื่อการตรวจสอบได้ฝ่ายวิญญาณกำหนดให้มีการรักษาความลับ คุณมีศักยภาพอันยิ่งใหญ่ที่จะช่วยเหลือและเยียวยารักษาคนอื่นได้ถ้าหากคุณเก็บสิ่งต่างๆเป็นความลับได้ คนจะไม่ไว้วางใจบอกคุณเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวถ้าหากเขาคิดว่าคุณจะบอกคนอื่นครับ
อย่ากระจายข้อมูลเกี่ยวกับความผิดพลาดต่างๆของคนอื่น
คนที่เที่ยวซุบซิบก็เผยความลับ แต่คนที่ไว้วางใจได้ย่อมปิดเรื่องไว้ได้ (สุภาษิต 11:13)
เพราะขาดฟืน ไฟก็ดับ และที่ไหนไม่มีคนซุบซิบนินทา การทะเลาะวิวาทก็หยุดไป (สุภาษิต 26:20)
 
มีหลายครั้งที่จำเป็นต้องพูดบางอย่างออกมาแต่คุณอาจไม่ใช่คนที่ควรพูด คุณพูดแทนคนที่มีสิทธิอำนาจที่จะพูดเรื่องนั้นไม่ได้ครับ
คนขี้ขลาดบอกความขัดแย้งของตัวเองผิดคนแทนที่จะทำตามขั้นตอนในพระธรรมมัทธิว 18:15-17
จงถกเรื่องของเจ้ากับเพื่อนบ้าน และอย่าเผยความลับของอีกฝ่ายหนึ่ง (สุภาษิต 25:9)
 
(6) ระมัดระวังการวิพากษ์วิจารณ์ 
มีเวลาและวิธีที่ถูกต้องในการวิพากษ์วิจารณ์
ว่ากันต่อหน้า ดีกว่ารักกันลับๆ บาดแผลที่มิตรทำก็ด้วยเจตนาดี...(สุภาษิต 27:5-6ก)
 
ให้แน่ใจว่าคุณวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความตั้งใจจะเสริมสร้างไม่ใช่ทำลาย คุณควรแสดงให้คนที่คุณกำลังวิพากษ์วิจารณ์เห็นว่าคุณห่วงใยเขาและอยากจะช่วยเขา ก่อนที่การวิพากษ์วิจารณ์จะเป็นประโยชน์ได้นั้นจำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แข็งแรงเสียก่อนครับ
(7) ไม่หลอกลวง 
อย่าพูดโกหกต่อกันและกัน เพราะว่าท่านได้ปลดวิสัยมนุษย์เก่ากับพฤติกรรมของมนุษย์นั้นแล้ว (โคโลสี 3:9)
 
การหลอกลวงเข้ากับชีวิตที่ชั่วร้ายไม่ใช่ชีวิตแบบคริสเตียน
พระยาห์เวห์ทรงเกลียดชังปากที่พูดมุสา แต่ทรงปีติยินดีในคนที่ประพฤติอย่างซื่อสัตย์ (สุภาษิต 12:22)
 
(8) รักษาคำพูดของคุณให้บริสุทธิ์ 
และการพูดลามก การพูดเล่นไม่เป็นเรื่อง หรือการพูดหยาบโลน ก็เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม แต่จงขอบพระคุณดีกว่า (เอเฟซัส 5:4)
 
อย่าพูดเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวในอดีตหรือปัจจุบันยกเว้นเมื่อเห็นว่าสมควรที่จะจัดการกับเรื่องนั้นอย่างเป็นทางการ อย่าเล่าเรื่องตลกที่ต้องแอบเล่าแบบลับๆ คนฝ่ายโลกมักใช้คำศัพท์เกี่ยวกับเพศหรือพื้นที่สงวนในคำอุทาน แต่นั่นไม่เหมาะสำหรับคริสเตียน การใช้คำที่อ้างถึงพระเจ้าหรือพระเยซูในคำอุทานเวลาเคร่งเครียดเป็นการแสดงไม่แสดงความยำเกรงถ้าหากคุณไม่ได้ร้องหาพระเจ้าเพื่อขอรับความช่วยเหลือด้วยใจจริง
(9) อย่าแบ่งแยกคนด้วยคำพูดของคุณ 
คนตลบตะแลงแพร่การวิวาท และผู้ซุบซิบนินทาก็แยกเพื่อนสนิทออกจากกัน (สุภาษิต 16:28)
มีหกสิ่งซึ่งพระยาห์เวห์ทรงเกลียด มีเจ็ดสิ่งซึ่งเป็นที่น่าเกลียดน่าชังสำหรับพระองค์...พยานเท็จซึ่งหายใจออกมาเป็นคำมุสา และคนที่หว่านความแตกร้าวในหมู่พี่น้อง (สุภาษิต 6:16, 19)
 
อย่าพยายามทำให้ตัวคุณเองดูดีโดยที่คนอื่นต้องเสียหาย อย่าก่อความขัดแย้งระหว่างคนอื่น อย่านินทาทำลายความมีประสิทธิภาพของพันธกิจของคนอื่น
ก่อนพูด ไม่เพียงพิจารณาว่า “เป็นความจริงหรือเปล่า” แต่พิจารณาว่า “ผมควรพูดมันเพราะอะไร?” ด้วยเช่นกัน
                                     
                                    
                                    
                                        
                                                                                                                                    
                                                
                                                     
                                                    Previous
                                                 
                                                                                    
                                                                                                                                    
                                                
                                                    Next