สาธุการแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของอิสราเอล เพราะว่าพระองค์ทรงเยี่ยมเยียนและทรงไถ่ชนชาติของพระองค์...พระองค์ตรัสไว้ตั้งแต่โบราณ โดยปากของผู้เผยพระวจนะบริสุทธิ์ของพระองค์ คือทรงให้เรารอดพ้นจากพวกศัตรู...ให้เราปรนนิบัติพระองค์โดยปราศจากความกลัว ด้วยความบริสุทธิ์และด้วยความชอบธรรมเฉพาะพระพักตร์พระองค์ตลอดชีวิต (ลูกา 1:68-75)
 
► ศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของเราคืออะไร?
มารจะไม่มีอำนาจเหนือเราถ้าหากเราไม่ใช่คนบาป ถ้าหากเราไม่ได้เป็นคนบาปเราก็คงจะไม่ถูกแยกออกจากพระเจ้าและตกอยู่ภายใต้การพิพากษา ถ้าหากไม่มีบาปดั้งเดิมและบาปต่อเนื่องโลกก็คงจะไม่เป็นสถานแห่งความขัดแย้งและความทุกข์ยาก
ศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของเราคือบาป
พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะทรงช่วยกู้เราจากอำนาจของศัตรูที่ดึงเราไม่ให้รับใช้พระองค์ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ตลอดชีวิตทุกวัน
จดหมายฝากแห่งพระธรรม 1 ยอห์นเน้นว่าคุณลักษณะหลักของผู้เชื่อคือชัยชนะเหนือบาป พระเจ้าประทานคุณลักษณะนี้ให้เป็นพื้นฐานการรับรองส่วนบุคคลถึงความรอดครับ
อัครทูตยอห์นรู้ดีว่ามีเวลาที่ผู้เชื่อต้องการการรับรอง ท่านแสดงให้เห็นว่าเป็นการเหมาะสมแล้วที่ผู้เชื่อจะมองหาหลักฐานที่จะเป็นพื้นฐานการรับรองเพราะว่าหลังจากที่ให้หลักฐานบางอย่างสำหรับวัตถุประสงค์นี้แล้วท่านก็พูดว่านี้เป็นวิธีที่เรายืนยันจิตใจของเราได้
เช่นนี้แหละ เราก็จะรู้ว่าเราอยู่ฝ่ายสัจจะ และใจเราจะหมดกังวลเฉพาะพระพักตร์พระองค์ (1 ยอห์น 3:19)
 
ยอห์นให้เกณฑ์กำหนดหลายอย่างสำหรับวัตถุประสงค์นี้ – ท่านแสดงให้เห็นว่าท่านกำลังให้เกณฑ์กำหนดโดยกล่าวซ้ำๆว่า “นี่คือวิธีที่เรารู้ได้” การรับรองส่วนตัวเป็นสาระสำคัญหนึ่งของจดหมายฝาก อันที่จริงยอห์นกล่าวว่านี่เป็นเหตุผลที่ท่านเขียนจดหมายฉบับนี้ครับ
ข้อความเหล่านี้ข้าพเจ้าเขียนถึงท่านทั้งหลายที่วางใจในพระนามของพระบุตรของพระเจ้า เพื่อให้ท่านรู้ว่าท่านมีชีวิตนิรันดร์(1 ยอห์น 5:13)
 
เกณฑ์กำหนดที่ถูกย้ำถึงมากที่สุดตลอดจดหมายฝากฉบับนี้คือชัยชนะเหนือบาป สภาวะปกติของผู้เชื่อคือเสรีภาพจากบาป
ลูกของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าเขียนข้อความเหล่านี้ถึงท่านทั้งหลายเพื่อท่านจะได้ไม่ทำบาป...(1 ยอห์น 2:1ก)
 
ที่นี่อัครทูตยอห์นแสดงให้เห็นว่าผู้เชื่อควรใช้ชีวิตโดยไม่ทำบาป ท่านกล่าวว่าท่านกำลังเขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นถึงความสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีชัยชนะ
...และถ้าใครทำบาป เราก็มีผู้ช่วยทูลขอพระบิดาเพื่อเรา คือพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเที่ยงธรรมนั้น และพระองค์ทรงเป็นเครื่องบูชาลบบาปของเรา และไม่ใช่แค่บาปของเราเท่านั้น แต่ของทั้งโลกด้วย (1 ยอห์น 2:1ข-2)
 
ตรงนี้ท่านยอมรับว่าบาปอาจเกิดขึ้นได้ถึงแม้ว่าจะไม่จำเป็น ท่านรับรองแก่เราว่าถ้าหากผู้เชื่อทำบาป เครื่องบูชาไถ่บาป (“การชดใช้บาป”) แห่งพระคริสต์สามารถลบบาปนั้นได้ เราไม่ควรทึกทักว่าเครื่องบูชานี้ไถ่บาปให้แก่ผู้เชื่อแต่ก่อนโดยอัตโนมัติเวลาที่เขาทำบาป ข้อพระคัมภีร์นี้กล่าวได้ว่าเครื่องบูชามีอยู่ด้วยเครื่องบูชานี้มีไว้สำหรับทั้งโลก เรารู้ว่าทั้งโลกไม่ได้ถึงความรอดโดยอัตโนมัติ การสำนึกผิดจำเป็นสำหรับการยกโทษทุกบาปไม่ว่าคนบาปเคยเป็นผู้เชื่อมาก่อนหรือไม่ครับ
ข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้จากพระธรรม 1 ยอห์นย้ำว่าความแตกต่างอันยิ่งใหญ่ของผู้เชื่อคือชัยชนะเหนือบาป ข้อความในวงเล็บเป็นความคิดเห็นที่เพิ่มเข้ามา
ถ้าเราประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ เราจะมั่นใจได้ว่าเรา [รู้ว่านี่เป็นหลักฐานว่า] รู้จักพระองค์ ผู้ที่กล่าวว่า “ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์” แต่ไม่ได้ประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ คนนั้นเป็นคนพูดมุสาและสัจจะไม่ได้อยู่ในเขาเลย (2:3-4)
ทุกคนที่ทำบาป [ไม่ว่าเขาเป็นผู้เชื่อมาก่อนหรือไม่] ก็ประพฤติผิดธรรมบัญญัติ บาปเป็นสิ่งที่ผิดธรรมบัญญัติ พวกท่านรู้อยู่แล้วว่าพระองค์ทรงปรากฏเพื่อกำจัดบาปของเราให้หมดไป และไม่มีบาปอยู่ในพระองค์เลย ผู้ที่อยู่ในพระองค์ไม่ทำบาปอีกต่อไป ส่วนผู้ที่ทำบาปอยู่เรื่อยๆ คนนั้นยังไม่เห็นพระองค์และยังไม่รู้จักพระองค์ (3:4-6)
ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้ใครชักจูงท่านให้หลง ผู้ที่ประพฤติชอบก็ชอบธรรมเหมือนอย่างที่พระองค์ทรงชอบธรรม [ความชอบธรรมเป็นจริง ไม่ใช่เสแสร้ง – คนที่ทำสิ่งที่ถูกต้องจริงๆก็ชอบธรรม] ผู้ที่ทำบาปก็มาจากมาร เพราะว่ามารก็ทำบาปตั้งแต่เริ่มแรก พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้ คือเพื่อทำลายกิจการของมาร (3:7-8)
ผู้ที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาป เพราะเชื้อของพระเจ้าอยู่ในคนนั้นและเขาทำบาปไม่ได้ เพราะเขาเกิดจากพระเจ้า (3:9)
ทุกคนที่ประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ก็อยู่ในพระองค์ และพระองค์สถิตอยู่ในคนนั้น [ถ้าหากเขาหยุดอยู่ในพระคริสต์ เขาจะทำบาป ถ้าเขาทำบาปเขาก็ได้หยุดอยู่ในพระคริสต์แล้ว] เช่นนี้แหละ พวกเราจึงรู้ว่าพระองค์สถิตอยู่ในเราคือโดยพระวิญญาณที่พระองค์ประทานแก่เรา (3:24)
โดยข้อนี้ เราจึงรู้ว่าเรารักคนทั้งหลายที่เป็นลูกของพระเจ้า คือเมื่อเรารักพระเจ้า และประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ เพราะว่าความรักต่อพระเจ้าเป็นอย่างนี้ คือเมื่อเราประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ และพระบัญญัติของพระองค์นั้นไม่เป็นภาระหนักเกินไป (5:2-3) [ความรักที่แท้จริงกระตุ้นการเชื่อฟัง การไม่เชื่อฟังแสดงให้เห็นถึงการขาดความรัก]
เพราะทุกคนที่เกิดจากพระเจ้า ก็มีชัยเหนือโลก และความเชื่อของเรานี่แหละเป็นชัยชนะที่มีชัยเหนือโลก (5:4)
 
จากข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ ดูชัดเจนว่าคุณลักษณะที่แตกต่างของผู้เชื่อคือเขาใช้ชีวิตเชื่อฟังพระเจ้า ชัยชนะเหนือบาปเป็นอภิสิทธิ์อันยิ่งใหญ่ของผู้เชื่อ
ไม่มีการทดลองใดๆ เกิดขึ้นกับท่านทั้งหลาย นอกเหนือการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ พระเจ้าทรงซื่อสัตย์ พระองค์จะไม่ทรงให้พวกท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อถูกทดลอง พระองค์จะทรงให้มีทางออกด้วย เพื่อพวกท่านจะมีกำลังทนได้ (1 โครินธ์ 10:13)
คนที่สู้ทนต่อการทดลองใจก็เป็นสุข เพราะเมื่อเขาผ่านการทดสอบแล้ว เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิตที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับคนทั้งหลายที่รักพระองค์ (ยากอบ 1:12)
 
                                     
                                    
                                    
                                        
                                                                                                                                    
                                                
                                                     
                                                    Previous
                                                 
                                                                                    
                                                                                                                                    
                                                
                                                    Next