พลังของความเชื่อมั่น
ความเชื่อมั่นคือความแน่ใจเกี่ยวกับความจริง ความเชื่อมั่นเป็นระบบความเชื่อที่มั่นคงเกี่ยวกับความเป็นจริง ความเชื่อมั่นนำหน้าการตัดสินใจของเรา เนื่องจากคน ๆ หนึ่งจะทำสิ่งใดย่อมทำเพื่อตอบสนองต่อสิ่งที่เขาเชื่อว่าเป็นความจริง
ความเชื่อมั่นไม่ได้อยู่ในบริบทของความจริงทางศาสนาเท่านั้น ถ้าหากพนักงานขายคนหนึ่งเชื่อจริง ๆ ว่าผลิตภัณฑ์ของเขาดีที่สุดและทุกคนจำเป็นจะต้องมี เขามีความเชื่อมั่นแล้ว และความเชื่อมั่นนั้นจะทำให้เขามีอิทธิพลต่อคนอื่น
คนกลุ่มหนึ่งที่หลงทางในทะเลทราย พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์นั้นและเสนอทางเลือกต่าง ๆ มีคนหนึ่งที่เชื่อมั่นมากที่สุดในการอธิบายถึงสถานการณ์ที่ทุกคนเผชิญอยู่ เขาโน้มน้าวว่าเขารู้ว่าทุกคนควรทำอะไร เขากลายมาเป็นผู้นำ
ความเชื่อมั่นอาจผิดได้ คน ๆ หนึ่งอาจเชื่อในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง แต่แม้เป็นความเชื่อมั่นแบบผิด ๆ ก็ยังมีพลังต่อการเป็นผู้นำในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากคนหนึ่งเชื่อแบบผิด ๆ ว่าเขารู้ทิศทางเพื่อไปยังสถานที่หนึ่ง ผู้คนอาจตามเขาเพราะเขามีความเชื่อมั่น ในที่สุดผู้คนจะผิดหวัง และอิทธิพลของเขาจะลดลงอย่างมาก มีโอกาสน้อยมากที่ผู้คนจะติดตามเขาอีกครั้ง
การเป็นผู้นำนั้นมีพื้นฐานบนความเชื่อมั่น เนื่องจากผู้นำนำคนอื่นโดยการแสดงให้เห็นความจริงและการตอบสนองต่อความจริงนั้นอย่างเหมาะสม เขากำลังพูดว่า “ความจริงคือแบบนี้ และนี่คือสิ่งที่เราควรทำ”
ถ้าหากมีคนหนึ่งในท่ามกลางคนมากมายซึ่งอยู่ในอาคารที่ตระหนักว่าไฟกำลังไหม้อาคารนั้น เขารู้ว่าทุกคนจำเป็นต้องได้ยินความจริงนั้นและตอบสนอง เขามีความเชื่อมั่นในการสื่อสาร ข้อมูลกระตุ้นให้เกิดการกระทำจากทุกคนที่เชื่อข้อมูลนั้น ในเวลาไม่กี่วินาที คนนั้นกลายเป็นผู้นำเพราะเขามีอิทธิพลต่อคนอื่น ๆ โดยการสื่อสารความเชื่อมั่นของเขาออกมา เขาจะไม่เป็นผู้นำต่อไปถ้าหากเขาไม่เชื่อว่าเขารู้ว่าทุกคนควรทำอะไร ความเป็นผู้นำของเขาสิ้นสุดลงตรงจุดสิ้นสุดของความเชื่อมั่น
สำหรับคริสเตียนแล้ว ความจริงจากพระวจนะของพระเจ้าและพระประสงค์ของพระองค์สำหรับเราควรเป็นรากฐานของทุกสถาบัน ไม่ใช่เฉพาะขององค์กรพันธกิจเท่านั้น คริสเตียนไม่ควรดำเนินธุรกิจที่ขัดแย้งกันกับพระวจนะของพระเจ้า
ความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง ขอให้คิดถึงผู้นำที่ยิ่งใหญ่สักคน ทั้งจากพระคัมภีร์หรือจากประวัติศาสตร์ในเวลาต่อมา พยายามนึกถึงคนนั้นในสภาวะที่ขาดความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า แม้จะมีความสามารถมากมาย แม้คนนั้นจะมีการบริหารจัดการที่ดีและการสื่อสารที่ดี เขาก็ไม่สามารถนำได้ในระยะยาวโดยปราศจากความเชื่อมั่น
ขอให้บางคนในกลุ่มบอกเกี่ยวกับผู้นำเหล่านี้แต่ละคนในประวัติศาสตร์ จากนั้นขอให้ทุกคนในกลุ่มลองนึกภาพผู้นำนี้หากปราศจากความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า:โมเสส, โยชูวา, เปาโล, มาร์ติน ลูเธอร์, อับราฮัม ลินคอน, มหาตะมะคานธี, วินส์ตัน เชอร์ชิล, และบิลลี่ เกรแฮม (ผู้นำเหล่านี้แต่ละคนมีอิทธิพลอย่างยิ่งใหญ่ แต่พวกเขาไม่ได้เป็นผู้นำคริสเตียนทุกคน)
ความเชื่อมั่นไม่ใช่ความสำเร็จที่ควรเป็นแรงขับเคลื่อนสูงสุดสำหรับผู้นำ เขาถูกผลักดันให้ประสบความสำเร็จเพราะความเชื่อมั่น ด้วยเหตุนี้ เพื่อความสำเร็จนั้นเขาจึงไม่ประนีประนอมต่อความเชื่อมั่นเลย
ความเชื่อมั่นต้องไม่ใช่บางเวลาหรือเป็นความเสแสร้ง ถ้าหากคนหนึ่งยอมเปลี่ยนความเชื่อมั่นของตัวเองเพียงเพราะเขาถูกจ้างให้เป็นตัวแทนของความเชื่ออีกแบบหนึ่ง เขาก็ไม่สามารถเป็นผู้นำที่เข้มแข็งได้
ผู้นำควรมีชื่อเสียงเกี่ยวกับความร้อนรนของเขาเพื่อความจริง เนื่องจากความเชื่อมั่นเป็นแรงขับเคลื่อนเขา เขาจึงต้องการรู้ความจริงเสมอ เขาจะเป็นคนที่แก้ไขให้ถูกต้องแทนที่จะทนเชื่อสิ่งที่ผิดต่อไปเรื่อย ๆ
ความเชื่อมั่นทำให้คน ๆ หนึ่งเข้มแข็งได้มากเกินกว่าที่บุคลิกของเขาจะเป็นได้ แม้คนที่เกลียดการเผชิญหน้า การโต้แย้ง และวิพากษ์วิจารณ์ก็อาจกลายมาเป็นผู้นำเพราะเขามีความเชื่อมั่นอันแรงกล้า
ความเชื่อมั่นทำให้คน ๆ หนึ่งทำงานในระดับสติปัญญาสูงกว่าที่เขาจะทำได้ ด้วย “สติปัญญาที่เกิดจากความเชื่อมั่น”[1] นี้ทำให้มีการตัดสินใจมากมายเกิดขึ้นเป็นการสะท้อนกลับโดยไม่ต้องพิจารณาถึงความคิดเห็นบางอย่าง นี่ทำให้บุคคลหนึ่งสามารถมองเห็นสิ่งที่ถูกต้องได้รวดเร็วขึ้น เช่นเดียวกับความรู้หรือสติปัญญา คนที่ไม่มีความเชื่อมั่นก็เป็นคนโง่
► ใครคือผู้นำยิ่งใหญ่ที่คุณรู้จักเป็นการส่วนตัว? ความเชื่อมั่นทำให้การนำของเขาเข้มแข็งขึ้นอย่างไรบ้าง?
ดาเนียลและชาวยิวอีกสองสามคนได้รับการฝึกอบรมให้เป็นผู้นำในอาณาจักรของคนต่างชาติ การทำงานได้ดีและทำให้ผู้ควบคุมการฝึกอบรมพอใจเป็นสิ่งสำคัญต่อเขายิ่งนัก แต่ความเชื่อมั่นของเขาได้รับการทดสอบเมื่อเขาตระหนักว่าอาหารนั้นเป็นสิ่งผิดต่อคนยิวในการรับประทาน คนมากมายที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันที่ยอมประนีประนอมต่อความเชื่อมั่นของตัวเองก็ยอมลดสถานะของตัวพวกเขาเอง
ผู้ควบคุมการฝึกอบรมสังเกตเห็นว่าดาเนียลมีวิญญาณแห่งความเป็นเลิศ ดาเนียลเข้าหาเขาด้วยความสุภาพ ยื่นคำร้องด้วยความถ่อมตน และเสนอทางเลือกที่แตกต่างออกไปซึ่งจะไม่ทำให้ผู้ควบคุมต้องเกิดความเสี่ยง พระเจ้าให้เกียรติต่อความสัตย์ซื่อของดาเนียลและมอบความสำเร็จยิ่งใหญ่ให้แก่เขา (ดาเนียล 1:8-15)