การเป็นผู้นำพันธกิจ
การเป็นผู้นำพันธกิจ
Audio Course Purchase

Search Course

Type at least 3 characters to search

Search through all lessons and sections in this course

Searching...

No results found

No matches for ""

Try different keywords or check your spelling

results found

Lesson 2: คุณสมบัติผู้นำตามหลักการพระคัมภีร์

1 min read

by Stephen Gibson


บทนำ

มีบางคนเชื่อว่าเพราะเราทุกคนสำคัญเท่าเทียมกันต่อพระเจ้า จึงไม่ควรไม่ใครมีสิทธิอำนาจเหนือคนอื่น ๆ ในคริสตจักร มีคนจำนวนมากพูดว่าพวกเขาเชื่อมั่นในผู้นำ แต่กระทำเหมือนกับพวกเขาไม่ต้องอยู่ใต้สิทธิอำนาจฝ่ายวิญญาณใด ๆ เลย

► พระคัมภีร์สอนไหมว่าควรมีสิทธิอำนาจในคริสตจักร? ขอให้ยกตัวอย่าง

พระคัมภีร์หลายตอนกล่าวถึงการเป็นผู้นำคริสตจักร[1] (ตัวอย่างเช่นใน ฮีบรู 13:7, 17; ทิตัส 1:5; โรม 12:8; 1 โครินธ์ 14:40; และ 1 ทิโมธี 5:17)

คำนิยามของการเป็นผู้นำว่าคือการมีอิทธิพลต่อผู้อื่นช่วยให้เรามองเห็นบทบาทของการนำในคริสตจักร บทบาทที่เจาะจงบางบทบาทนั้นมีพระเจ้าเป็นผู้ออกแบบเพื่อให้ผู้นำที่ได้รับการทรงเรียกและได้รับฤทธิ์เดชเพื่อนำคริสตจักรให้บรรลุตามวัตถุประสงค์

[2]► ให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่านเอเฟซัส 4:11-12 ให้ทั้งกลุ่มฟัง

ไม่ใช่ทุกบทบาทในพันธกิจจะระบุเจาะจงว่าเป็นการทรงเรียกในรายการนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น นักดนตรี หรือผู้นำนมัสการ ไม่ได้อยู่ในรายการเหล่านี้ แต่ทุกบทบาทผู้นำพันธกิจควรมุ่งเน้นที่การช่วยเหลือคริสตจักรเพื่อทำให้วัตถุประสงค์ของคริสตจักรสำเร็จ

บทบาทการเป็นผู้นำไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเทศนา การสอน และการประกาศ ความรับผิดชอบของคริสตจักรนั้นกว้างกว่าบทบาทเหล่านี้ ผู้คนในคริสตจักรทำงานร่วมกันเพื่อตอบสนองต่อความจำเป็นในทางปฏิบัติ คนที่นำคนอื่นให้แบ่งปันเครื่องมือสำหรับทำงานก็กำลังช่วยคริสตจักรให้ไปถึงเป้าหมาย ความรับผิดชอบต่าง ๆ ของคริสตจักรทำให้บทบาทหน้าที่ของผู้นำหลายคนขยายวงกว้างมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นภายในอาคารคริสตจักร


[1]ถ้าหากใครในกลุ่มโต้แย้งว่าในคริสตจักรไม่จำเป็นต้องมีผู้นำหรือไม่ได้เป็นไปตามหลักการพระคัมภีร์ ในกลุ่มสามารถตรวจสอบข้อพระคัมภีร์ที่อยู่ในวงเล็บ หลีกเลี่ยงการใช้เวลามากไปเรื่องนี้
[2]

“ผมเคยขอพระเจ้าให้ช่วยผม จากนั้นผมถามว่าผมจะช่วยพระองค์ได้ไหม สุดท้ายผมจบลงที่ขอให้พระองค์ทำงานของพระองค์ผ่านผม”
- เจ ฮัดสัน เทย์เลอร์