หลักคำสอนและการปฏิบัติ ของคริสตจักร
หลักคำสอนและการปฏิบัติ ของคริสตจักร
Audio Course Purchase

Search Course

Type at least 3 characters to search

Search through all lessons and sections in this course

Searching...

No results found

No matches for ""

Try different keywords or check your spelling

results found

Lesson 3: คริสตจักรท้องถิ่น

1 min read

by Stephen Gibson


บทนำ

► คริสตจักรท้องถิ่นคืออะไร? แตกต่างจากกลุ่มอื่นอย่างไร?

คำนิยามนี้สำหรับคริสตจักรท้องถิ่นสามารถแบ่งออกเป็นองค์ประกอบเจ็ดอย่างที่สำคัญ องค์ประกอบเหล่านี้อธิบายไว้ตลอดหลักสูตรนี้

คำนิยามของคริสตจักรท้องถิ่น

คริสตจักรท้องถิ่นคือกลุ่มผู้เชื่อที่ทำหน้าที่เป็นครอบครัวฝ่ายวิญญาณและชุมชนแห่งความเชื่อ นำเสนอข่าวประเสริฐและการสามัคคีธรรมของคริสตจักรให้กับทุกคนที่กลับใจใหม่ ประกอบพิธีบัพติศมาและพิธีมหาสนิท มีการนมัสการร่วมกัน สามัคคีธรรมกัน ประกาศข่าวประเสริฐ และสร้างสาวก บรรลุการงานของพระกายของพระคริสต์ให้สำเร็จโดยการใช้ของประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ ยอมจำนนต่อพระวจนะของพระเจ้า มีความเป็นหนึ่งเดียวกันตั้งอยู่บนพื้นฐานหลักคำสอนตามพระคัมภีร์ มีประสบการณ์ในพระคุณ และมีชีวิตของพระวิญญาณ

[1]ด้านล่างคือส่วนต่าง ๆ ของคำนิยามที่จะกล่าวถึงซ้ำ ๆ โดยมีคำอธิบายอยู่ในวงเล็บ

► สำหรับแต่ละประเด็นต่อไปนี้ ให้อภิปรายร่วมกันว่าทำไมจึงจำเป็นต้องระบุถึงคุณลักษณะของคริสตจักร อะไรคือผลลัพธ์ที่ได้หากคริสตจักรขาดคุณลักษณะนี้?

คริสตจักรท้องถิ่นคือกลุ่มผู้เชื่อที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนครอบครัวฝ่ายวิญญาณและชุมชนแห่งความเชื่อ...

คริสตจักรคือกลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นโดยความเชื่อของคริสเตียน ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งกว่ากลุ่มอื่นในโลกนี้

…นำเสนอข่าวประเสริฐและการสามัคคีธรรมของคริสตจักรให้กับทุกคนที่กลับใจใหม่...

คริสตจักรไม่สามารถยกเว้นกลุ่มชาติพันธุ์หรือคนในชนชั้นใดแล้วยังคงสัตย์ซื่อต่อข่าวประเสริฐได้ ไม่จำเป็นต้องมีชาติพันธุ์หรือสังคมชนชั้นใดร่วมกัน คริสตจักรไม่สามารถปฏิเสธที่จะให้อภัยบาปใดบาปหนึ่งถ้าหากคริสตจักรสัตย์ซื่อต่อข่าวประเสริฐ

…ประกอบพิธีบัพติศมาและพิธีมหาสนิท…

พระเยซูสั่งคริสตจักรให้ปฏิบัติพิธีเหล่านี้ พิธีบัพติศมาแทนถึงการเข้าในคริสตจักรโดยการกลับใจใหม่ พิธีมหาสนิทแทนถึงพระคุณที่เปิดเผยในข่าวประเสริฐ

[2]…การนมัสการร่วมกัน การสามัคคีธรรม การประกาศข่าวประเสริฐ และการสร้างสาวก… ทั้งหมดนี้เป็นวัตถุประสงค์ที่เป็นสาระสำคัญของคริสตจักร การมารวมตัวกันจำเป็นสำหรับคริสตจักรเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่สำคัญเหล่านี้

…ทำให้การงานของพระกายของพระคริสต์สำเร็จโดยของประทานของพระวิญญาณบริสุทธิ์…

ภารกิจฝ่ายวิญญาณของคริสตจักรไม่มีวันบรรลุผลสำเร็จได้ด้วยลำพังเพียงความสามารถของมนุษย์เท่านั้น

…ยอมจำนนต่อพระวจนะของพระเจ้า…

คริสตจักรขึ้นอยู่กับพระคัมภีร์ในเรื่องข่าวประเสริฐ หลักคำสอน และสิทธิอำนาจ ถ้าหากคริสตจักรเลือกที่จะไม่เชื่อฟังพระคัมภีร์ คริสตจักรก็สูญเสียสิทธิอำนาจในการสอน

…ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกันตั้งอยู่บนพื้นฐานหลักคำสอนตามพระคัมภีร์ ประสบการณ์ในพระคุณ และชีวิตของพระวิญญาณ

สมาชิกคริสตจักรสามารถอุทิศตัวต่อกันเพราะพวกเขามีสามสิ่งเหล่านี้ร่วมกัน โดยปราศจากสามสิ่งนี้ ก็ไม่มีการสามัคคีธรรมของคริสเตียนอย่างแท้จริง


[1]

“ผู้เชื่อไม่ถูกเรียกออกมาให้แยกตัวสันโดษโดยสัมพันธ์กับพระเจ้าเท่านั้น แต่ถูกเรียกให้มาอยู่ร่วมกันและผูกพันกันเป็นชุมชนหนึ่ง”
- Thomas Oden, Life in the Spirit

[2]

“คริสตจักรของพระคริสต์ที่มองเห็นจับต้องได้คือที่ประชุมกันของคนที่สัตย์ซื่อซึ่งมีการเทศนาพระวจนะอันบริสุทธิ์ของพระเจ้าและและพิธีศีลระลึกที่ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามระเบียบของพระคริสต์...”

- บทความทางศาสนาของคริสตจักรเมธอดิสท์

การลงทุนของพระเจ้าในคริสตจักร

► ให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่านเอเฟซัส 3:1-10 ให้ทุกคนในกลุ่มฟัง เปาโลพูดเรื่องอะไรเกี่ยวกับพันธกิจของเขา?

เปาโลบอกว่าส่วนหนึ่งที่สำคัญในงานพันธกิจของเขาคือการชี้แจงเกี่ยวกับคริสตจักร ดังนั้นเราจึงรู้ว่าการชี้แจงเกี่ยวกับคริสตจักรจึงควรเป็นส่วนสำคัญของพันธกิจในปัจจุบันนี้ พระเจ้าวางแผนให้ผู้เชื่อที่เป็นคนต่างชาติได้รับการนำเข้าสู่คริสตจักร และที่คริสตจักรจะสำแดงสติปัญญาของพระเจ้าในโลกนี้

เราจำเป็นต้องระลึกว่าคริสตจักรไม่ใช่ตัวอาคาร คริสเตียนไม่มีอาคารคริสตจักรในหลายชั่วอายุแรก ๆ ของคริสตจักร นั่นหมายความว่าเมื่อพันธสัญญาใหม่พูดถึงคริสตจักรก็กำลังพูดถึงผู้คน

พระธรรมเอเฟซัสอธิบายว่าคริสตจักรสำคัญต่อแผนการของพระเจ้าอย่างไร

พระเจ้าทรงปราบทุกสิ่งลงไว้ใต้พระบาทของพระคริสต์และประทานพระคริสต์แก่คริสตจักรให้เป็นเจ้านายเหนือทุกๆ สิ่งคริสตจักรเป็นพระกายของพระคริสต์ซึ่งเป็นความบริบูรณ์ของพระองค์ผู้ทรงเติมทุกอย่างในทุกแห่งให้เต็มบริบูรณ์ (เอเฟซัส 1:22-23)

พระคัมภีร์ข้อนี้กล่าวว่าพระเยซูเป็นศีรษะของคริสตจักร และว่าคริสตจักรเป็นพระกายของพระองค์ และกล่าวว่าคริสตจักรมีความบริบูรณ์ของพระเจ้า

นึกถึงแม่น้ำสายหนึ่งที่ไหลเข้าไปหล่อเลี้ยงเมืองใหญ่เมืองหนึ่ง คนนับล้าน ๆ ใช้น้ำนี้ แต่ปริมาณน้ำที่พวกเขาใช้ก็ยังน้อยกว่าปริมาณน้ำที่ไหลในแม่น้ำ มันยากเกินกว่าจะจินตนาการได้ว่าน้ำในแม่น้ำมีมากขนาดไหน[1]

แต่ความบริบูรณ์ของพระเจ้านั้นเป็นอย่างไร? ถ้าพระเจ้าต้องสร้างถังบรรจุหรือคันคลองเพื่อเทพระพร พระคุณ และฤทธิ์อำนาจของพระองค์ให้กับโลกนี้ ถังบรรจุแบบไหนที่จะรองรับความบริบูรณ์ของพระเจ้าได้หรือ? พระคัมภีร์ข้อนี้บอกว่าคริสตจักรเป็นถังบรรจุนั้น คริสตจักรบรรจุพระพรของพระเจ้าสำหรับโลกนี้

จำไว้ว่าคริสตจักรที่บรรจุพระพรของพระเจ้าไม่ใช่ตัวอาคาร แต่เป็นกลุ่มคนที่อยู่ในการสามัคคีธรรมของคริสเตียน

แผนการของพระเจ้าสำหรับคริสตจักรดำรงอยู่ตั้งแต่เริ่มต้นโลกนี้ ดังนั้นอะไรคือพระประสงค์ที่พระเจ้ามีในใจสำหรับคริสตจักร?

ให้ดูในเอเฟซัส 3:10-11 อีกครั้ง

เพื่อว่าพวกภูตผีที่ครอบครองและพวกภูตผีที่มีอำนาจในสวรรคสถาน จะได้รู้จักพระปัญญาอันมากล้นหลายด้านของพระเจ้าโดยทางคริสตจักรในเวลานี้ ทั้งนี้เป็นไปตามพระประสงค์นิรันดร์ที่พระองค์ทรงทำแล้วในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

อันมากล้นหมายถึง “ทุกชนิด” พระเจ้ามีสติปัญญาสำหรับทุกสถานการณ์และทุกแง่มุมของชีวิต สติปัญญาของพระเจ้าถูกเปิดเผยให้กับทั้งจักรวาล รวมถึงโลกฝ่ายวิญญาณ โดยสิ่งที่พระเจ้ากระทำผ่านทางคริสตจักร คนได้รับความเข้าใจเรื่องพระเจ้าจากสิ่งที่เขาเห็นในคริสตจักร การมองเห็นคริสตจักรควรนำให้คนมานมัสการพระเจ้าได้ทันที เขาควรมองเห็นสติปัญญาของพระเจ้าที่ทำงานในคริสตจักร โลกจะไม่เห็นสิ่งทั้งหมดนี้จากการประชุมนมัสการวันอาทิตย์ พวกเขามองเห็นจากการปฏิบัติของคริสตจักรในทุก ๆ วันและในทุกสถานการณ์ของชีวิต

► อะไรคือตัวอย่างของสถานการณ์ในชีวิตที่สติปัญญาของพระเจ้ามีความสำคัญ?

สติปัญญาอันเต็มล้นของพระเจ้ารวมถึงสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาครอบครัว ความยากจน การว่างงาน การขาดแคลนที่อยู่อาศัย การด้อยการศึกษา การกระทำผิดของเยาวชน การทอดทิ้งเด็ก ความต้องการทางการแพทย์ และปัญหาอื่น ๆ ของมนุษย์หรือไม่? แน่นอนรวมสิ่งเหล่านี้ด้วย โลกนี้จะมองเห็นสติปัญญาของพระเจ้าได้อย่างไร? พวกเขาต้องเห็นสติปัญญาที่ได้รับการสาธิตให้เห็นโดยคริสตจักร เมื่อคริสตจักรสาธิตให้เห็นถึงทางออกของพระเจ้าที่ใช้ได้ผลในชุมชนแห่งความเชื่อ

► ให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่าน เอเฟซัส 3:20-21 ให้ทุกคนในกลุ่มฟัง

พระเจ้าสร้างทุกสิ่งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ให้ทุกสิ่งนั้นถวายเกียรติแด่พระเจ้า คริสตจักรคือที่ที่พระเจ้าได้รับเกียรติเป็นพิเศษเพราะ...

  • เป็นที่ที่พระเจ้าสาธิตให้เห็นถึงความรักและการทรงไถ่

  • เป็นที่ที่สิ่งทรงสร้างที่ถูกสร้างตามพระฉายาของพระองค์เต็มใจนมัสการและเชื่อฟังพระองค์

  • เป็นที่ที่ครอบครัวแห่งความเชื่อครอบครัวหนึ่งสาธิตให้เห็นถึงชีวิตที่ได้รับการอวยพรจากพระเจ้า

  • เป็นที่ที่คนที่ได้รับการไถ่มีส่วนร่วมในการไถ่คนอื่น ๆ ด้วยการประกาศข่าวประเสริฐ

พระเจ้าจะได้รับเกียรติทั่วจักรวาลและชั่วนิรันดร์ผ่านทางสิ่งที่คริสตจักรทำในเวลานี้ การงานที่คริสตจักรท้องถิ่นของคุณทำจะตั้งมั่นเป็นอนุสรณ์นิรันดร์เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า


[1]ภาพอธิบายประกอบอีกตัวอย่างหนึ่ง: มีบริษัทหนึ่งชื่อว่าคอร์บอไนท์ซึ่งทำงานบริการสำรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ส่วนตัว พวกเขาสามารถกู้ข้อมูลทุกอย่างที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของคุณในกรณีมีเหตุบางอย่างเกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์ ขอให้คุณคิดถึงขนาดของหน่วยความจำที่พวกเขาจะต้องมีเพื่อรองรับข้อมูลจากคอมพิวเตอร์หลายพันเครื่องว่าจะต้องมากแค่ไหน!

ความเพียงพอของคริสตจักรท้องถิ่น

พระคัมภีร์พูดถึงคริสตจักรหนึ่งเดียว แต่ก็พูดถึงคริสตจักรท้องถิ่นมากมายด้วย ยกตัวอย่างเช่น อัครทูตยอห์นเขียนถึงคริสตจักรทั้งเจ็ดในเอเชีย (วิวรณ์ 1:4) เปาโลกล่าวถึง “คริสตจักรทั้งหมดของพระเจ้า” ( 1 โครินธ์ 11:16)

ที่ประชุมท้องถิ่นแห่งหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคริสตจักรหนึ่งเดียวแต่ก็ยังเรียกว่าเป็นคริสตจักร ในจดหมายฝากหลายฉบับในพันธสัญญาใหม่กล่าวถึงคริสตจักรต่าง ๆ ซึ่งอยู่ในสถานที่เจาะจง

► อย่างไหนที่สามารถเรียกว่าเป็นพระวิหารของพระเจ้า คริสตจักรสากลหนึ่งเดียวหรือคริสตจักรท้องถิ่น?

ในเอเฟซัส 2:20-21 เปาโลกล่าวว่าคริสตจักรหนึ่งเดียวที่ตั้งอยู่บนรากฐานดั้งเดิมเป็นพระวิหารของพระเจ้า ในข้อที่ 22 เขาพูดว่าผู้เชื่อชาวเอเฟซัสเป็นนิเวศของพระเจ้า ในอีกข้อหนึ่งเขาบอกว่าผู้เชื่อชาวโครินธ์เป็นพระวิหารของพระเจ้า (1 โครินธ์ 3:16) ด้วยเหตุนี้เราจึงเข้าใจว่าคริสตจักรสากลหนึ่งเดียวเป็นพระวิหารของพระเจ้า แต่คริสตจักรท้องถิ่นก็เป็นด้วยเช่นกัน

[1]► อย่างไหนสามารถเรียกว่าเป็นพระกายของพระคริสต์ คริสตจักรสากลหนึ่งเดียวหรือคริสตจักรท้องถิ่น?

เปาโลพูดถึงคริสตจักรหนึ่งเดียวว่าเป็นพระกายของพระคริสต์ (เอเฟซัส 1:23) อย่างไรก็ตามเมื่อเปาโลเขียนถึงคริสตจักรที่โครินธ์ เขากล่าวว่า “พวกท่านเป็นพระกายของพระคริสต์” ( 1 โครินธ์ 12:27) เขาไม่ได้พูดว่าผู้เชื่อชาวโครินธ์เป็นส่วนหนึ่งใน
พระกายของพระคริสต์ พวกเขาเป็นพระกายของพระคริสต์สำหรับสถานที่แห่งนั้น

พระเจ้าตั้งใจให้ที่ประชุมแต่ละที่ทำหน้าที่เป็นคริสตจักรอย่างสมบูรณ์ด้วยทุกสิ่งที่จำเป็นในการเป็นพระกายของพระคริสต์สำหรับสถานที่แห่งหนึ่ง

เปาโลเปรียบเทียบสมาชิกของคริสตจักรท้องถิ่นว่าเป็นอวัยวะของร่างกาย เช่น ดวงตา เท้า และมือ เห็นได้ชัดว่าอวัยวะของร่างกายต้องอยู่ด้วยกันในที่เดียวกันเพื่อทำหน้าที่ได้ เขาไม่ได้บอกว่าพวกเขาเป็นอวัยวะของร่างกายและว่าอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกายกระจัดกระจายไปทั่วโลก พวกเขาเป็นร่างกายที่สมบูรณ์สำหรับที่นั่น

เปาโลกล่าวกับคริสตจักรโครินธ์ว่าสิ่งต่าง ๆ ที่แน่นอนจะเกิดขึ้นได้ “เมื่อทั้งคริสตจักรอยู่รวมกันในที่แห่งเดียวกัน” เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้พูดถึงคริสตจักรสากล แต่พูดถึงคริสตจักรท้องถิ่น ที่ประชุมท้องถิ่นมีสิทธิอำนาจพิเศษเมื่อทำหน้าที่เป็นคริสตจักรแห่งหนึ่ง

พระเจ้าให้ของประทานของพระวิญญาณที่จำเป็นต่อคริสตจักรท้องถิ่น สมาชิกทำงานร่วมกันด้วยของประทานที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความจำเป็นที่มีในที่ประชุม

เนื่องจากที่ประชุมท้องถิ่นเป็นพระกายของพระคริสต์ เป็นวิหารของพระเจ้า และเป็นคริสตจักร การเป็นคริสตจักรในที่ที่คริสตจักรอยู่นั้นจึงเพียงพอแล้ว

ความเพียงพอของคริสตจักรท้องถิ่นหมายความว่าพระกายท้องถิ่นมีของประทานต่าง ๆ และทรัพยากรต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำพันธกิจในท้องถิ่นที่อยู่นั้น คริสตจักรท้องถิ่นสามารถทำหน้าที่เป็นคริสตจักรแม้เมื่อไม่มีความช่วยเหลือจากที่อื่น ผู้นำในคริสตจักรท้องถิ่นช่วยให้ที่ประชุมพัฒนาวิสัยทัศน์และเป้าหมายสำหรับการทำพันธกิจในท้องถิ่น ที่ประชุมทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนทางการเงินสำหรับงานพันธกิจและดูแลสมาชิกในที่ประชุม


[1]

“องค์ประกอบที่สำคัญทั้งหมดของคริสตจักร
อยู่ในคำอธิบายสี่ประการแรกของคริสตจักร [กิจการ 2:42] คือ หลักคำสอนของอัครทูต ชุมชน ศีลระลึก
และการนมัสการร่วมกัน”

Thomas Oden, Life in the Spirit

ความจำเป็นของคริสตจักร

การจะสงวนรักษาผู้เชื่อใหม่ไว้ได้ย่อมเป็นสิ่งที่ทำได้ยากเว้นแต่พวกเขาจะถูกนำให้เข้ามาอยู่ในชีวิตของคริสตจักร ผู้เชื่อไม่สามารถถูกสร้างให้เป็นสาวกที่ดีได้โดยปราศจากการมีส่วนร่วมในคริสตจักรท้องถิ่น คน ๆ หนึ่งไม่สามารถได้รับการฝึกฝนให้ทำพันธกิจได้โดยปราศจากประสบการณ์ในคริสตจักร

ข่าวประเสริฐไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่มองเห็นจับต้องได้ในชุมชนหนึ่งจนกว่าจะมีคริสตจักร รูปแบบที่มองเห็นจับต้องได้ไม่ใช่ตัวอาคารคริสตจักร แต่เป็นครอบครัวแห่งความเชื่อที่ทำหน้าที่สำแดงชีวิตที่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า จนกว่าคริสตจักรจะอยู่ที่นั่น โลกก็ไม่สามารถมองเห็นว่าการเป็นคริสเตียนหมายถึงอะไร ชุมชนหนึ่งไม่สามารถถือว่าได้รับการประกาศข่าวประเสริฐอย่างเต็มที่ได้จนกว่าจะมีคริสตจักรอยู่ที่นั่น

ประโยคสรุปเจ็ดประโยค

1. คนที่กลับใจมาเชื่อไม่ควรถูกยกเว้นจากคริสตจักรเนื่องจากเป็นชาติพันธุ์ หรือแบ่งแยกระดับชั้นทางสังคม หรือมีความบาปในอดีตของเขา

2. ภารกิจของคริสตจักรสำเร็จได้โดยการงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผ่านทางคริสตจักรเท่านั้น

3. ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตจักรตั้งอยู่บนพื้นฐานหลักคำสอนตามพระคัมภีร์ ประสบการณ์ในพระคุณ และชีวิตของพระวิญญาณ

4. สติปัญญาของพระเจ้าเปิดเผยให้โลกได้เห็นจากสิ่งที่พระองค์ทำในคริสตจักร

5. ความเพียงพอของคริสตจักรท้องถิ่นหมายความว่าพระกายท้องถิ่นมีของประทานและทรัพยากรต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการทำพันธกิจในท้องถิ่นที่คริสตจักรอยู่นั้น

6. คริสตจักรจำเป็นต้องสงวนรักษาผู้เชื่อใหม่ สร้างสาวกผู้เชื่อ และฝึกอบรมผู้รับใช้

7. ชุมชนหนึ่งไม่ได้รับการประกาศข่าวประเสริฐอย่างเต็มที่จนกว่าจะมีคริสตจักรอยู่ที่นั่น

งานมอบหมายบทที่ 3

1. ท่องจำประโยคสรุปเจ็ดประโยคของบทที่ 3 เขียนคำอธิบายความหมายและความสำคัญของแต่ละประโยคสรุปทั้งเจ็ดนี้โดยมีความยาวหนึ่งย่อหน้า (ทั้งหมดเจ็ดย่อหน้า) ให้กับบางคนที่ไม่ได้อยู่ในชั้นเรียนนี้ นำคำอธิบายนี้กลับมาส่งให้กับหัวหน้าชั้นเรียนก่อนถึงชั่วโมงเรียนถัดไป ขอให้เตรียมพร้อมแบ่งปันคำอธิบายหนึ่งย่อหน้าให้กับกลุ่มในกรณีที่หัวหน้าชั้นได้ขอให้คุณแบ่งปันในช่วงเวลาที่มีการอภิปรายกัน เขียนประโยคเหล่านี้จากการท่องจำตอนเริ่มต้นชั่วโมงเรียนถัดไป

2. อย่าลืมกำหนดเวลาเพื่อสอนนอกชั้นเรียนด้วยตัวของคุณเองและรายงานให้กับหัวหน้าชั้นเรียนเมื่อคุณสอนแล้ว

3. งานมอบหมายในการเขียน: ศึกษา เอเฟซัส 5:25-32 เขียนสองสามประโยคเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพระคริสต์กับคริสตจักร

Next Lesson