หลักคำสอนและการปฏิบัติ ของคริสตจักร
หลักคำสอนและการปฏิบัติ ของคริสตจักร

Search Course

Type at least 3 characters to search

Search through all lessons and sections in this course

Searching...

No results found

No matches for ""

Try different keywords or check your spelling

results found

Lesson 10: พิธีบัพติศมา

1 min read

by Stephen Gibson


ที่มาของพิธีบัพติศมา

► ให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่าน มัทธิว 3:1-12 ให้ทุกคนในกลุ่มฟัง

ในพันธสัญญาใหม่ เราได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับแนวคิดเรื่องบัพติศมาโดยทางพันธกิจของยอห์นผู้ให้บัพติศมา อย่างไรก็ตามยอห์นไม่ได้เป็นผู้คิดค้นพิธีบัพติศมา พวกฟาริสีบัพติศมาให้กับคนต่างชาติที่เปลี่ยนมานับถือศาสนายูดาย พวกฟาริสีไม่ได้ให้บัพติศมาคนยิว เพราะพวกเขาเหมารวมว่าคนยิวเป็นประชากรของพระเจ้าอยู่แล้ว ยอห์นทำพิธีบัพติศมาที่แตกต่างออกไปเพราะเขาให้บัพติศมาแก่พวกยิว

► ยอห์นปฏิเสธไม่ให้ใครรับบัพติศมา? เพราะอะไร? นี่บอกเราว่าข้อกำหนดสำหรับบัพติศมาคืออะไร?

พวกฟาริสีบางคนมารับบัพติศมาจากยอห์น แต่ยอห์นปฏิเสธพวกเขาเพราะพวกเขาไม่ได้กลับใจใหม่

พวกฟาริสีคิดว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องกลับใจใหม่และได้รับการยกโทษเพราะพวกเขาเป็นคนยิว ยอห์นต้องการให้พวกเขาเข้าใจว่าคนของพระเจ้าที่แท้จริงคือคนที่รักและรับใช้พระองค์ พวกคนที่อ้างว่าเป็นคนของพระเจ้าเพราะเกิดมาเป็นคนยิวนั้นเป็นเหมือนต้นไม้ที่ไม่ออกผล พระเจ้าปฏิเสธคนแบบนั้น

► ให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่าน ยอห์น 3:22-23 และยอห์น 4:1-2 ให้ทุกคนในกลุ่มฟัง

เห็นได้ชัดว่าพระเยซูเน้นการบัพติศมาในพันธกิจของพระองค์ พระเยซูไม่ได้ให้บัพติศมาด้วยพระองค์เอง แต่ให้ความรับผิดชอบนั้นแก่พวกสาวกของพระองค์ พวกเขาให้บัพติศมาแก่คนมากกว่าที่ยอห์นให้

►ให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่าน มัทธิว 28:18-20 ให้ทุกคนในกลุ่มฟัง

ในตอนปลายของพันธกิจบนโลกนี้ของพระเยซู พระองค์บอกพวกสาวกให้ไปทุกหนแห่งในโลกนี้เพื่อสร้างสาวก พระองค์บอกพวกเขาให้บัพติศมาแก่ผู้คน

เรารู้ว่าคำสั่งนี้ไม่ได้ให้ไว้กับพวกอัครทูตเท่านั้น เพราะมิชชันจะต้องใช้เวลาหลายศตวรรษเพื่อทำให้สำเร็จ พระเยซูให้พระสัญญาว่าพระองค์จะอยู่กับพวกเขา “จนกว่าจะสิ้นยุค” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคำสั่งและพระสัญญานั้นมีไว้สำหรับคริสตจักรในทุกยุคสมัย

เราพบจากจดหมายฝากต่าง ๆ ในพันธสัญญาใหม่ว่า คริสตจักรในยุคศตวรรษแรกเชื่อฟังคำสั่งนี้ตามตัวอักษร (กิจการ 2:38, กิจการ 8:38)

► ให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่าน 1 โครินธ์ 1:12-17 ให้ทุกคนในกลุ่มฟัง ทำไมเปาโลจึงดีใจที่เขาไม่ได้ให้บัพติศมาแก่คนมากมายในเมืองโครินธ์?

บัพติศมาแทนถึงการเข้าสู่คริสตจักร คริสตจักรโครินธ์แตกแยกและสมาชิกก็มีผู้นำหลายคน เปาโลเตือนพวกเขาว่าบัพติศมาไม่ได้มีไว้ให้พวกเขาเป็นสาวกของคนใดคนหนึ่ง แต่มีไว้เพื่อให้พวกเขาเป็นสาวกของพระคริสต์ เปาโลดีใจที่เขาไม่ได้ให้บัพติศมาแก่พวกเขาจำนวนมาก ดังนั้นจึงไม่มีใครจะคิดว่าเปาโลอยากให้พวกเขามาเป็นสาวกของเขา ลำดับความสำคัญของเปาโลคือเพื่อเทศนาข่าวประเสริฐ

► พระคัมภีร์ตอนนี้บอกอะไรแก่เราเกี่ยวกับการปฏิบัติพื้นฐานในการบัพติศมาของคริสตจักรยุคแรก?

พระคัมภีร์ตอนนี้บอกเราว่าคริสตจักรยุคแรกให้บัพติศมาผู้เชื่อในทุกหนแห่ง พวกเขาทำตามคำสั่งของพระเยซู บัพติศมาไม่ได้มีไว้เพื่อคนในอิสราเอลเท่านั้น ไม่ได้เป็นประเพณีชั่วคราว แต่เป็นสิ่งที่ทำในทุกหนแห่งที่ข่าวประเสริฐไปถึง

นับจากเริ่มแรก คริสตจักรได้ทำพิธีบัพติศมาเป็นดั่งคำพยานต่อสาธารณชนว่าคนบาปคนหนึ่งได้กลับใจใหม่และได้เข้าสู่การสามัคคีธรรมของผู้เชื่อ

[1]สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว บัพติศมาไม่ได้เป็นช่วงวินาทีที่พวกเขามาเป็นคริสเตียน คนบาปที่กลับใจใหม่ได้รับความรอดในช่วงวินาทีที่เขาเชื่อในพระคริสต์ หลังจากได้รับความรอดแล้ว เขาควรเชื่อฟังคำสั่งให้รับบัพติศมาเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงชีวิตใหม่ของเขาที่เชื่อฟังพระเยซูในฐานะองค์พระผู้เป็นเจ้า มีบางคนที่มีข้อยกเว้นต่าง ๆ เพราะเมื่อรับบัพติศมานั้นเป็นเวลาที่พวกเขาเชื่อในพระคริสต์และมีประสบการณ์กับการกลับใจมาเชื่อ แต่โดยปกติแล้ว บัพติศมาเป็นคำพยานว่าความรอดได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว

► คุณจะบอกอะไรกับคนที่พูดว่าเขามาเป็นคริสเตียนตอนที่เขาได้รับบัพติศมา?


[1]

“บัพติศมาของคริสเตียนเป็นพิธีศักดิ์สิทธิที่แสดงถึงการยอมรับผลประโยชน์จากการลบบาปของพระเยซูคริสต์ และเป็นการปฏิญาณโดยตั้งเป้าเต็มที่ว่าจะเชื่อฟังในความบริสุทธิ์และชอบธรรม”
- Wiley & Culbertson, Introduction to Christian Theology