หลักคำสอนและการปฏิบัติ ของคริสตจักร
หลักคำสอนและการปฏิบัติ ของคริสตจักร
Audio Course Purchase

Search Course

Type at least 3 characters to search

Search through all lessons and sections in this course

Searching...

No results found

No matches for ""

Try different keywords or check your spelling

results found

Lesson 1: พระเจ้าเดียว คริสตจักรเดียว

1 min read

by Stephen Gibson


บทนำ

► ทำไมคุณถึงไปคริสตจักร?

เมื่อมีคนพูดถึง “การไปคริสตจักร” พวกเขาหมายถึงไปที่คริสตจักรซึ่งเป็นตัวอาคารที่มีรอบนมัสการกำหนดไว้ตามเวลา

คนมากมายพูดว่าพวกเขาไปคริสตจักรเพื่อเรียนรู้เรื่องพระเจ้า บางครั้งมีคนที่รู้สึกว่าห่างไกลจากพระเจ้าไปที่คริสตจักรโดยหวังว่าจะพบกับการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้า คนที่รู้จักพระเจ้าไปคริสตจักรโดยหวังว่าจะพบกับการสถิตอยู่ด้วยในการนมัสการ คริสตจักรเกี่ยวข้องกับพระเจ้า ผู้คนควรสามารถพบกับการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้าในที่ประชุมนมัสการของคริสตจักร

แต่คริสตจักรไม่ใช่ตัวอาคาร และไม่ใช่การประชุมเพื่อนมัสการ คริสตจักรคือกลุ่มผู้เชื่อที่อุทิศตัวร่วมกันเป็นคริสตจักร ดังนั้นเมื่อเราพูดถึงผู้คนที่เห็นคริสตจักรหรือเข้ามาในคริสตจักร เราจึงหมายถึงกลุ่มผู้เชื่อ เมื่อเราพูดว่าคริสตจักรเกี่ยวข้องกับพระเจ้า เราไม่ได้หมายความถึงแค่ตัวอาคารและที่ประชุมนมัสการที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าเท่านั้น ชีวิตที่มีร่วมกันของกลุ่มผู้เชื่อที่อุทิศตัวคือการเกี่ยวข้องกับพระเจ้า

ต้นกำเนิดของพระวจนะ

ในศตวรรษแรกของคริสตศักราช คำกรีกคำว่า ekklesia ถูกใช้ทั่วไป เมื่อมีการประกาศเรียกให้ผู้คนมาชุมนุมกันในเมือง ๆ หนึ่ง การชุมนุมนั้นเรียกว่าเป็น ekklesia

Ekklesia เป็นคำที่ใช้สำหรับคริสตจักรในพันธสัญญาใหม่ คำนี้ถูกใช้ 117 ครั้งในพันธสัญญาใหม่ แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่กล่าวถึงคริสตจักร บางครั้งเป็นการกล่าวถึงการประชุมในลักษณะอื่นๆ (กิจการ 19:32, 39, และ 41)

ข่าวประเสริฐถูกนำเสนอให้กับคนทุกเชื้อชาติ ทุกระดับชั้นของสังคม ในทุกที่ และคนทุกอาชีพ เช่นเดียวกันกับทุกคนที่อยู่ในเมืองที่สามารถได้ยินคำประกาศเรียกให้มาชุมนุมกัน ก็ไม่มีบุคคลประเภทใดที่ถูกกีดกันจากการรับข้อเสนอของข่าวประเสริฐ

คริสตจักรคือกลุ่มคนที่ตอบสนองต่อการเรียกของข่าวประเสริฐ พวกเขามาจากคนทุกรูปแบบที่มาเป็นกลุ่มคนที่พิเศษและหลากหลายซึ่งอุทิศตัวต่อพระคริสต์และต่อคริสตจักรของพระองค์

พระเจ้าพระบิดาในคริสตจักร

ความเป็นบุคคลของตรีเอกานุภาพ ‒ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ เกี่ยวข้องกับบรรดาผู้เชื่อในคริสตจักรด้วยวิถีทางที่พิเศษ

พระเจ้าจะได้รับเกียรตินิรันดร์สำหรับการงานที่พระองค์ทำในคริสตจักร

ขอให้พระเกียรติจงมีแด่พระองค์ในคริสตจักรและในพระเยซูคริสต์ตลอดทุกชั่วอายุคนเป็นนิตย์ อาเมน (เอเฟซัส 3:21)

เนื่องจากคริสตจักรดำรงอยู่เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า จึงไม่ควรมีสิ่งใดที่ทำในคริสตจักรแล้วเป็นการลบหลู่พระเจ้า คริสตจักรไม่ควรทำสิ่งใดที่ทำให้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับพระลักษณะของพระเจ้า หรือจดจ่อกับคนแทนที่จะจดจ่อกับพระเจ้า

คริสตจักรเป็นครอบครัวของพระเจ้า

เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีโอกาส ให้เราทำดีต่อทุกคน และเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อคนที่เป็นสมาชิกของครอบครัวแห่งความเชื่อ(กาลาเทีย 6:10)

เพราะฉะนั้นพวกท่านจงอธิษฐานเช่นนี้ว่า ‘ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้สถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ (มัทธิว 6:9)

เนื่องจากคริสตจักรเป็นครอบครัวของพระเจ้า จึงเป็นไปไม่ได้ที่คน ๆ หนึ่งจะอยู่ในคริสตจักรอย่างแท้จริงโดยไม่ได้เชื่อในพระเจ้าและมีความสัมพันธ์กับพระองค์ก่อน คน ๆ หนึ่งไม่ได้เข้ามาในคริสตจักรได้โดยการรู้จักคนในคริสตจักรเท่านั้น เขาเข้ามาในคริสตจักรโดยการมามีความสัมพันธ์กับพระเจ้า และจากนั้นจึงอุทิศตัวต่อการมีความสัมพันธ์กับคนของพระเจ้า

► การให้พระเจ้าเป็นพระบิดาของคุณหมายถึงอะไร?

พระคริสต์ในคริสตจักร

[1]พระเยซูคือผู้เดียวที่สร้างคริสตจักร พระเยซูสัญญาที่จะให้ความสำเร็จสูงสุดแก่คริสตจักร

เราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร และบนศิลานี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรไม่ได้ (มัทธิว 16:18)

พระเยซูสัญญาว่าจะอยู่กับคริสตจักร

...เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค อาเมน (มัทธิว 28:20)

เพราะว่ามีสองสามคนประชุมกันที่ไหนในนามของเรา เราจะอยู่ท่ามกลางพวกเขาที่นั่น (มัทธิว 18:20)

พระคริสต์เป็นศีรษะของคริสตจักร คริสตจักรเป็นร่างกายของพระองค์ในโลกนี้ ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่พระคริสต์มีกับคริสตจักรนั้นลึกซึ้งเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้

พระเจ้าทรงปราบทุกสิ่งลงไว้ใต้พระบาทของพระคริสต์ และประทานพระคริสต์แก่คริสตจักร ให้เป็นเจ้านายเหนือทุกๆ สิ่ง คริสตจักรเป็นพระกายของพระคริสต์ซึ่งเป็นความบริบูรณ์ของพระองค์ ผู้ทรงเติมทุกอย่างในทุกแห่งให้เต็มบริบูรณ์ (เอเฟซัส 1:22-23)

เพราะว่าเราเป็นอวัยวะของพระกายของพระองค์ (เอเฟซัส 5:30)

เนื่องจากสมาชิกของคริสตจักรเป็นอวัยวะในร่างกายของพระคริสต์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่คน ๆ หนึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของคริสตจักรโดยไม่ได้มีความเชื่อส่วนตัวในพระเยซูในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดและยอมรับสิทธิอำนาจของพระคริสต์ในฐานะองค์พระผู้เป็นเจ้า

► คนแบบไหนที่สามารถเรียกว่าเป็นอวัยวะในร่างกายของพระคริสต์ได้?


[1]

“วลีส่วนตัว ‘คริสตจักรของเรา’ บ่งชี้ว่าพระเยซูตั้งใจสร้างชุมชนแห่งการอธิษฐาน เทศนา และฝึกวินัยอย่างต่อเนื่อง ตามที่ปรากฏในพระธรรมมัทธิว พระองค์เรียกและฝึกฝนสาวกของพระงอค์และสัญญาถึงการมาของพระวิญญาณบรสุทธิ์เพื่อนำพวกเขาหลังจากพระองค์ถูกรับขึ้นสวรรค์”
- Thomas Oden, Life in the Spirit

พระวิญญาณบริสุทธิ์ในคริสตจักร

พระธรรมกิจการแสดงให้เห็นว่าคริสตจักรยุคแรกตระหนักรู้ถึงการสถิตอยู่และฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ให้การดลใจและฤทธิ์เดชเพื่อการเทศนา (กิจการ 2:11) พระองค์เรียกคนสู่พันธกิจพิเศษ (กิจการ 13:2) พระองค์นำพวกเขาไปยังสถานที่เหมาะสมสำหรับทำพันธกิจ (กิจการ 16:6-10) พระองค์กำหนดหลักคำสอนในประเด็นต่าง ๆ (กิจการ 15:28)

พระวิญญาณบริสุทธิ์คือผู้อำนวยการสูงสูดของคริสตจักรในการทำให้มิชชันทั่วโลกสำเร็จ

ไม่มีองค์กรใดของมนุษย์แม้แต่องค์กรเดียวที่สามารถคาดหวังว่าจะทำให้งานทั้งหมดสำเร็จได้ พระเจ้าเรียกและบรรดาส่งมิชชันนารี และพระองค์รู้ถึงความจำเป็นของทุกพื้นที่ตามภูมิศาสตร์

คน ๆ หนึ่งเข้ามาในคริสตจักรได้โดยการมีประสบการณ์กับการอัศจรรย์แห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงใหม่เป็นประสบการณ์เหนือธรรมชาติ การประกาศข่าวประเสริฐจึงเป็นการนำและการให้ฤทธิ์เดชอย่างเหนือธรรมชาติโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผลต่าง ๆ ที่ได้รับจากการประกาศข่าวประเสริฐไม่สามารถอธิบายได้โดยเหตุผลฝ่ายธรรมชาติ

ชีวิตของคริสตจักรคือชีวิตในพระวิญญาณ

การนมัสการในคริสตจักรยุคแรกได้รับการนำโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ตรัสผ่านสมาชิกหลายคน (กิจการ 4:30-31) รายการที่กำหนดไว้ในการนมัสการสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์

[1]คริสตจักรแตกต่างจากองค์กรอื่น ๆ ของมนุษย์ สมาชิกของคริสตจักรสามัคคีธรรมต่อกันและกันเพราะพวกเขาอยู่ในความสัมพันธ์กับพระเจ้าและมีชีวิตฝ่ายวิญญาณ คนที่ไม่ได้กลับใจมาเชื่อก็ไม่ได้มีการสามัคคีธรรมที่แท้จริงนี้แม้ว่าเขาจะชอบคริสตจักรและเป็นเพื่อนกับคนในคริสตจักรก็ตาม

พระวิญญาณบริสุทธิ์ให้ของประทานฝ่ายวิญญาณซึ่งสมาชิกควรใช้เพื่อรับใช้กันและกัน (1 โครินธ์ 12:4-7) ในช่วงเริ่มต้นของคริสตจักรยุคแรกในกรุงเยรูซาเล็ม การอุทิศตัวและความเป็นหนึ่งเดียวกันของสมาชิกเข้มข้นมากเกินกว่าที่ผู้เชื่อในสมัยปัจจุบันจะจินตนาการได้ ผู้คนขายทรัพย์สมบัติและถวายเงินเพื่อให้สมาชิกในคริสตจักรแบ่งปันชีวิตร่วมกันได้ เมื่ออานาเนียกับสัปฟีราโกหก พวกเขาถูกฆ่าเพราะความบาปในการดูหมิ่นการงานอันอัศจรรย์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่กำลังทำในคริสตจักร (กิจการ 4:32-35, กิจการ 5:1-4)

ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตจักรสำเร็จได้โดยชีวิตของพระวิญญาณ

คริสตจักร (ไม่ใช่ตัวอาคาร แต่คือกลุ่มผู้เชื่อ) ถูกเรียกว่าเป็น “วิหารของพระเจ้า” เพราะพระวิญญาณมีชีวิตอยู่ในคริสตจักรด้วยวิถีทางพิเศษ (2 โครินธ์ 6:16) การพิพากษาร้ายแรงมีเหนือคนที่ทำอันตรายต่อวิหารฝ่ายวิญญาณที่คริสเตียนดำรงอยู่ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกัน (1 โครินธ์ 3:16-17)

► คุณจะพูดอะไรกับคนที่อ้างว่าได้รับฤทธิ์เดชโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์แต่กลับโจมตีและทำให้คริสตจักรแตกแยก?


[1]

“พระเยซูคริสต์อยู่ที่ไหน
ที่นั่นจะมีคริสตจักรคาธอลิก [สากล]”
- อิกเนเชียส
(ในจดหมายฉบับหนึ่งที่เขียนถึงชาวสเมอร์นา)

พระเจ้าได้รับการเปิดเผยโดยทางคริสตจักร

คริสตจักรช่วยให้คนจดจำพระเจ้า จดจ่อกับพระเจ้า และพบการเปลี่ยนแปลงโดยพระเจ้า

คริสตจักรถูกออกแบบและสร้างโดยพระเจ้า คริสตจักรคือที่ที่ซึ่งคนที่รักพระเจ้าทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จได้มากกว่าที่อื่นในโลกนี้ ด้วยเหตุนี้คริสตจักรจึงแสดงให้โลกนี้เห็นว่าพระเจ้ามีลักษณะอย่างไร

► ผู้คนควรเห็นสิ่งใดบ้างเกี่ยวกับพระเจ้าเมื่อพวกเขามองมาที่คริสตจักร?

โดยการมองดูที่คริสตจักร ผู้คนควรเห็นว่าพระเจ้าเป็นความรักและเมตตา ห่วงใยผู้คน ให้อภัย ส่งเสริมความจริง อุทิศตนเสมอ และเกลียดความบาปแต่ในขณะเดียวกันก็รักคนบาป

► ในการระลึกถึงว่าคริสตจักรเกี่ยวข้องกับพระเจ้านั้น ผู้คนควรหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดอะไร?

การนมัสการ

เนื่องจากคริสตจักรดำรงอยู่เพื่อพระเจ้า การนมัสการของคริสตจักรควรจดจ่อที่พระเจ้า เมื่อการนมัสการจดจ่อที่ผู้นำที่เป็นมนุษย์หรือการแสดง นั่นจะกลายเป็นการให้มนุษย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นการบูชารูปเคารพ การนมัสการที่ผิดเป็นยกย่องมนุษย์คนใดคนหนึ่ง ซึ่งเป็นการกระทำของเนื้อหนังและดึงดูดความปรารถนาฝ่ายธรรมชาติ การนมัสการที่ผิดสามารถถูกครอบงำด้วยวิญญาณชั่วเพราะผู้นมัสการยอมจำนนต่อความรู้สึกและวิญญาณต่าง ๆ ที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า

คริสตจักรสากลหนึ่งเดียว

► นักศึกษาควรอ่าน เอเฟซัส 4:1-6 พระคัมภีร์ตอนนี้บอกประเด็นหลักที่สำคัญเกี่ยวกับคริสตจักรว่าอย่างไร?

เปาโลเรียกให้ผู้เชื่อเป็นหนึ่งเดียวกัน เหตุผลสำหรับความเป็นหนึ่งคือการมีเพียงคริสตจักรเดียวเท่านั้น เหมือนกับที่มีพระเจ้าองค์เดียว และข่าวประเสริฐเดียว คริสเตียนที่แท้จริงอยู่ในพระกายเดียวกัน มีเพียงศาสนาคริสต์เดียวและคริสตจักรเดียวเพราะมีพระเจ้าองค์เดียว

ข้อเท็จจริงว่ามีคริสตจักรสากลหนึ่งเดียวนั้นถูกเน้นใน 1 โครินธ์ 12:13 ที่เปาโลกล่าวว่าคนต่างชาติที่เชื่อทั้งหมดล้วนเข้ามาในพระกายเดียว

หลักข้อเชื่อคือคำกล่าวที่เป็นรากฐานความเชื่อของคริสเตียน หลักข้อเชื่อของคริสตจักรยุคแรกเรียกว่า “หลักข้อเชื่อของอัครทูต” ซึ่งรวมคำกล่าวที่ว่า “ข้าพเจ้าเชื่อในคริสตจักรคาธอลิก” คำว่า คาธอลิก ในหลักข้อเชื่อไม่ได้หมายถึงคริสตจักรโรมันคาธอลิก แต่หมายถึง “สากล” หรือ “สมบูรณ์” หลักข้อเชื่อกำลังบอกว่ามีคริสตจักรหนึ่งเดียวที่มีคริสเตียนเป็นตัวแทนในทุกที่ทุกแห่ง

► นักศึกษาควรอ่าน เอเฟซัส 2:20

คริสตจักรถูกสร้างบนรากฐานอย่างเดียวคือ พันธกิจและความจริงที่ได้รับการเปิดเผยโดยอัครทูตและผู้เผยพระวจนะ ซึ่งเป็นพันธกิจ คำสอน การลบบาป และการสืบสานชีวิตของพระเยซูคริสต์ มีรากฐานเดียวและคริสตจักรเดียว

มีลัทธิหนึ่งในประเทศจีนชื่อว่าฟ้าแลบตะวันออก พวกเขาเชื่อว่าการงานของพระเยซูจบสิ้นแล้ว และเชื่อว่าพระเจ้าได้ส่ง
พระเมสสิยาห์องค์ใหม่มาเพื่อยุคสมัยใหม่ พระเมสสิยาห์องค์ใหม่คือผู้หญิงชาวจีนคนหนึ่งที่สอนหลักคำสอนใหม่

► คุณจะให้คำตอบอะไรกับคนที่มาจากลัทธิฟ้าแลบตะวันออก?

ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตจักรสากลไม่ได้หมายความว่าหนึ่งองค์กรคือคริสตจักรทั้งหมด ไม่มีองค์กรใดจะเข้าใกล้ความสำเร็จตามพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับคริสตจักรทุกหนแห่งในโลกนี้ พระเยซูบอกไม่ให้พวกอัครทูตคาดหวังว่าคริสเตียนทั้งหมดจะเป็นองค์กรเดียว (มาระโก 9:38-39)

คริสตจักรโรมันคาธอลิกอ้างว่าเป็นคริสตจักรทั้งหมดของพระเจ้า มอร์มอนและพยานพระยะโฮวาห์อ้างอย่างเดียวกัน

► คุณจะพูดอะไรกับคนที่อ้างว่าองค์กรของเขาเป็นคริสตจักรทั้งหมดของพระเจ้าบนโลกนี้?

คริสตจักรท้องถิ่นรับผิดชอบต่อการเป็นคริสตจักรเดียว

คริสตจักรท้องถิ่นไม่ควรรู้สึกมีอิสระที่จะสร้างหลักคำสอนขึ้นมาต่างหาก ในครั้งหนึ่งเปาโลได้ให้คำแนะนำ จากนั้นพูดว่ามันจะสำเร็จได้ “ในคริสตจักรของพระเจ้าทั้งหมด” (1 โครินธ์ 11:16) เขาบอกกับคริสตจักรแห่งหนึ่งว่าควรยอมรับผู้รับใช้ทั้งหลายเพราะพวกเขาเป็นตัวแทนของคริสตจักรอื่น ๆ ( 2 โครินธ์ 8:23-24) เห็นได้ชัดว่าเขาหมายความว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติที่คริสตจักรแห่งหนึ่งจะตัดสินใจยึดถือหลักคำสอนต่าง ๆ ที่แยกแปลกจากคริสตจักรอื่น ๆ ทั้งหมด

คริสตจักรที่เมืองโครินธ์ได้รับการอวยพรด้วยของประทานฝ่ายวิญญาณ พวกเขาเริ่มคิดถึงตัวเองว่าเป็นเอกเทศ ไม่จำเป็นต้องฟังใคร เปาโลแก้ไขความคิดของพวกเขา ปฏิบัติต่อพวกเขา และเตือนพวกเขาให้รู้ว่านั่นไม่ใช่คำสอนที่มีรากฐานจากพระวจนะของพระเจ้า แต่มันมาจากคนอื่นและไม่ได้มาถึงพวกเขาพวกเดียวเท่านั้น (1 โครินธ์ 14:36) เขากล่าวต่อไปว่าคนเหล่านั้นในคริสตจักรที่มีความเข้าใจฝ่ายวิญญาณย่อมยอมรับคำแนะนำของเปาโลเป็นดั่งการดลใจจากพระเจ้า

คริสตจักรท้องถิ่นควรปกครองตนเองและสนับสนุนตนเอง แต่ก็จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์กับคริสตจักรสากลเพื่อความมั่นคงทางหลักคำสอน ทรัพยากรต่าง ๆ สำหรับการฝึกอบรม และมุมมองพันธกิจโลก

ทุกวันนี้มีคริสตจักรหลายรูปแบบและมีหลักคำสอนหลากหลาย แม้ว่าจะอ้างว่าทำตามพระคัมภีร์ก็ตาม การที่คริสตจักรแห่งหนึ่งมีความรับผิดชอบต่อคริสตจักรสากลไม่ได้หมายความว่าคริสตจักรนั้นควรเป็นเหมือนคริสตจักรอื่น ๆ รอบตัวทั้งหมด คริสตจักรควรยึดถือหลักคำสอนของศาสนาคริสต์ที่เป็นหัวใจสำคัญตั้งแต่เริ่มต้นพันธสัญญาใหม่ คริสตจักรควรเป็นส่วนหนึ่งของสมาพันธ์คริสตจักรเพื่อการมีความรับผิดชอบต่อกัน

เพื่อความมั่นคงทางหลักคำสอน คริสตจักรท้องถิ่นควรมีสามสิ่งต่อไปนี้

1. ความเชื่อมั่นว่าพระคัมภีร์คือสิทธิอำนาจสูงสุด

2. หลักคำสอนที่เป็นหัวใจสำคัญของประวัติศาสตร์ศาสนาคริสต์

3. สามัคคีธรรมในสมาพันธ์คริสตจักรที่มีศาสนศาสตร์ถูกต้อง

ในบทเรียนนี้ เรากำลังศึกษาหัวข้อที่สอง เราจะพูดเกี่ยวกับสมาพันธ์คริสตจักรในอีกบทเรียนหนึ่ง

คริสตจักรท้องถิ่นไม่ควรยอมรับอย่างเสรีต่อหลักคำสอนซึ่งขัดแย้งกับหลักคำสอนของคริสตจักรยุคแรกที่เป็นหัวใจสำคัญของคริสเตียน หลักคำสอนเหล่านั้นถูกกล่าวไว้ในหลักข้อเชื่ออย่างเจาะจง หลักข้อเชื่อของอัครทูต หลักข้อเชื่อไนซีน และหลักข้อเชื่อคาลเคโดเนียน กล่าวถึงหลักคำสอนที่เป็นหัวใจสำคัญต่อคริสต์ศาสนานับจากเริ่มต้น หลักข้อเชื่อเหล่านี้ประกอบไปด้วยหลักคำสอนเรื่องตรีเอกานุภาพ ความเป็นพระเจ้าของพระคริสต์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ถ้าหากคริสตจักรใดที่ปฏิเสธหลักคำสอนในหลักข้อเชื่อเหล่านั้น ก็ไม่ควรเรียกตัวเองว่าเป็นคริสเตียน เพราะคริสตจักรนั้นเป็นลัทธิที่แปลกแยก

หลักข้อเชื่อไนซีน

ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ เนรมิตฟ้าดิน ทั้งสิ่งที่เห็นได้และเห็นไม่ได้

ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า ทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนกาลเวลา ทรงเป็นพระเจ้าจากพระเจ้า เป็นองค์ความสว่างจากองค์ความสว่าง เป็นพระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้ มิได้ถูกสร้างแต่ทรงบังเกิดร่วมพระธรรมชาติเดียวกับพระบิดา โดยทางพระบุตรนี้ ทุกสิ่งได้รับการเนรมิตขึ้นมา เพราะเห็นแก่เราที่เป็นมนุษย์ เพื่อทรงช่วยเราให้รอด พระองค์จึงเสด็จลงมาจากสวรรค์ และมาบังเกิดโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ผ่านทางมารีย์หญิงพรหมจารี ทรงรับสภาพมนุษย์ และในสมัยปอนทิอัส ปีลาต พระองค์ทรงถูกตรึงที่ไม้กางเขนเพื่อเรา พระองค์ทนทุกข์และถูกฝัง และในวันที่สาม พระองค์ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งตามที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ และทรงถูกรับขึ้นสู่สวรรค์ และนั่งที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระบิดา พระองค์จะเสด็จมาอีกครั้งด้วยพระสิริ เพื่อพิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย พระองค์ผู้ซึ่งราชอาณาจักรจะไม่สิ้นสุด

ข้าพเจ้าเชื่อในพระวิญญาณบริสุทธิ์ องค์พระผู้เป็นเจ้า และผู้ให้ชีวิต ผู้ทรงบังเกิดจากพระบิดาและพระบุตร ผู้ที่รับการนมัสการและถวายเกียรติร่วมกันกับพระบิดาและพระบุตร ผู้ซึ่งผู้เผยพระวจนะกล่าวถึง ข้าพเจ้าเชื่อในคริสตจักร
คาธอลิกหนึ่งเดียวซึ่งสืบเนื่องมาจากอัครทูต ข้าพเจ้ายอมรับบัพติศมาเดียวเพื่ออภัยโทษบาป และข้าพเจ้ารอคอยการฟื้นขึ้นจากความตาย และชีวิตในโลกที่จะมาถึง อาเมน

จะเป็นอย่างไรหากมีคนหนึ่งตัดสินใจว่าจะไม่เห็นด้วยกับหนึ่งในคำกล่าวของหลักข้อเชื่อไนซีนนี้? เนื่องจากหลักคำสอนเหล่านี้ได้รับการยึดถือโดยคริสตจักรนับจากเริ่มต้น ถ้าหากเขาปฏิเสธข้อใดข้อหนึ่ง เขาก็กำลังอ้างว่ามีความเข้าใจเกี่ยวกับความจริงที่คริสตจักรไม่มีมาตลอด 2,000 ปี ถ้าคริสตจักรแห่งหนึ่งหรือคน ๆ หนึ่งไม่ยึดถือหลักคำสอนตามหลักข้อเชื่อของอัครทูต หลักข้อเชื่อไนซีนและหลักข้อเชื่อคาลเคโดเนียนแล้ว หลักคำสอนของเขาไม่ควรเป็นที่น่าเชื่อถือ หลักคำสอนของหลักข้อเชื่อสนับสนุนข่าวประเสริฐ ถ้าใครปฏิเสธหลักคำสอนของหลักข้อเชื่อนี้ เขาก็กำลังขัดแย้งกับข่าวประเสริฐ

► คุณจะพูดอะไรกับคนที่บอกว่าเขาเป็นคริสเตียนแต่ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวในหลักข้อเชื่อไนซีน?

ประโยคสรุปเจ็ดประโยค

1. คริสตจักรท้องถิ่นคือกลุ่มผู้เชื่อที่อุทิศตัวร่วมกันเป็นคริสตจักรในสถานที่ที่เจาะจง

2. คริสตจักรแสดงให้โลกนี้เห็นพระลักษณะที่เป็นธรรมชาติของพระเจ้า

3. ชีวิตของพระวิญญาณคือชีวิตและความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตจักร

4. การเป็นสมาชิกของคริสตจักรขึ้นอยู่กับการมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าและการอุทิศตัวต่อกลุ่มของผู้เชื่อ

5. มีคริสตจักรสากลหนึ่งเดียวที่ปฏิบัติตามคริสต์ศาสนาเดียวเพราะคริสตจักรนั้นเกี่ยวข้องกับพระเจ้าองค์เดียว

6. ไม่มีองค์กรใดของมนุษย์เป็นคริสตจักรทั้งหมดของพระเจ้าบนโลกนี้

7. คริสตจักรท้องถิ่นต้องยึดมั่นในหลักคำสอนที่เป็นหัวใจสำคัญและเป็นประวัติศาสตร์ของคริสตจักรสากล

งานมอบหมายบทที่ 1

1. ท่องจำประโยคสรุปเจ็ดประโยคของบทที่ 1 เขียนคำอธิบายความหมายและความสำคัญของแต่ละประโยคสรุปทั้งเจ็ดนี้โดยมีความยาวหนึ่งย่อหน้า (ทั้งหมดเจ็ดย่อหน้า) ให้กับบางคนที่ไม่ได้อยู่ในชั้นเรียนนี้ นำคำอธิบายนี้กลับมาส่งให้กับหัวหน้าชั้นเรียนก่อนถึงชั่วโมงเรียนถัดไป ขอให้เตรียมพร้อมแบ่งปันคำอธิบายหนึ่งย่อหน้าให้กับกลุ่มในกรณีที่หัวหน้าชั้นได้ขอให้คุณแบ่งปันในช่วงเวลาที่มีการอภิปรายกัน เขียนประโยคเหล่านี้จากการท่องจำตอนเริ่มต้นชั่วโมงเรียนถัดไป

2. ในช่วงการเรียนวิชานี้ คุณจำเป็นต้องสอนบทเรียนหนึ่ง หรือส่วนหนึ่งของบทเรียนให้กับคน ๆ หนึ่งหรือให้กับกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในชั้นเรียน คุณสามารถเลือกเนื้อหาที่จะสอนได้ คุณต้องทำทั้งหมดสามครั้งโดยใช้เนื้อหาที่แตกต่างกัน คุณจัดเวลาเพื่อสอนได้เองและรายงานให้กับหัวหน้าชั้นเรียนเมื่อคุณสอนแล้ว

Next Lesson