ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของมนุษย์ 
หลายคนเชื่อผิด ๆ ว่าพวกเขาสามารถไว้วางใจให้ธรรมชาติของมนุษย์นำทางพวกเขาไปในทางที่ถูกต้องได้ ดูเหมือนสมเหตุสมผลสำหรับพวกเขาที่ความปรารถนาตามธรรมชาติจะนำพวกเขาไปสู่ความอิ่มใจ พวกเขาไม่รู้ว่าธรรมชาติของพวกเขาไม่สามารถเชื่อถือได้เพราะมันได้รับความเสียหายจากบาป ความปรารถนาตามธรรมชาติของคนจะไม่ทำให้เขาอิ่มใจเพราะความปรารถนาของเขาถูกบิดเบือน ถ้าแยกขาดจากพระเจ้าแล้ว ความปรารถนาตามธรรมชาติของคนไม่สามารถชักจูงเขาให้ทำสิ่งที่ถูกต้องทางศีลธรรมได้
ผู้คนเชื่อว่าพวกเขาควรปฏิบัติตามความปรารถนาและอารมณ์ของตนเองเพื่อสร้างวัตถุประสงค์สำหรับชีวิตของตัวเอง พวกเขาเชื่อว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะมีอัตลักษณ์ส่วนตัวซึ่งไม่ได้ถูกกำหนดหรือจำกัดด้วยสิทธิอำนาจหรือข้อกำหนดทางศีลธรรม พวกเขาคิดว่าแต่ละคนต้องตัดสินใจว่าอะไรเหมาะสมและมีคุณค่าสำหรับตนเอง พวกเขาไว้วางใจในธรรมชาติของตนเองเพื่อชี้นำพวกเขาไปในทางที่ถูกต้อง พวกเขาไม่ชอบสถาบันหรือกฎเกณฑ์ที่มาจำกัดพฤติกรรมของพวกเขา ธรรมชาติของมนุษย์ที่เสื่อมทรามกลายเป็นมาตรฐานด้านจริยธรรมและมาแทนที่พระวจนะของพระเจ้า
เนื่องจากเรื่องเพศเป็นส่วนที่มีพลังอย่างมากในธรรมชาติของมนุษย์ คนมากมายถือว่าความปรารถนาทางเพศเป็นศูนย์กลางตัวตนของพวกเขา พวกเขาคิดว่าตัวเองต้องทำตามความปรารถนาทางเพศเพื่อจะเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง ผู้คนคิดว่าเรื่องเพศไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่พวกเขาต้องการ หรือทำ เท่านั้น แต่เป็น ตัวตนของพวกเขา พวกเขาทำให้มันเป็นอัตลักษณ์ของพวกเขา
ตรงกันข้ามกับความคิดของโลก พระคัมภีร์บอกว่าเราถูกสร้างขึ้นตามพระฉายของพระเจ้า ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า นี่คืออัตลักษณ์ที่แท้จริงของเราในฐานะมนุษย์
ไม่มีสิ่งใดที่ดำรงอยู่ในโลกของเราที่จะให้อัตลักษณ์ที่แท้จริงสูงสุดแก่เราได้ คุณลักษณะต่าง ๆ ที่เรามีในโลกเวลานี้เป็นเพียงสภาวะ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้สร้างตัวตนของเรา เชื้อชาติของเรา ฐานะทางสังคม หรือฐานะทางเศรษฐกิจไม่ใช่อัตลักษณ์  แต่มันคือสภาวะ ของเรา คน ๆ หนึ่งอาจเป็นแพทย์ ดาราบันเทิง หรือผู้นำประเทศชาติ แต่คนนั้นยืนต่อหน้าพระเจ้าในฐานะสิ่งทรงสร้างของพระเจ้าตามพระฉายาของพระองค์ และนั่นคืออัตลักษณ์ที่สำคัญที่สุด
เรื่องเพศเป็นส่วนที่มีพลังอย่างมากของสภาวะของเรา เรามีแนวโน้ม ความปรารถนา และความคับข้องใจทางเพศ แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่อัตลักษณ์ของเรา มันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสภาวะของเรา
เราเกิดมาพร้อมกับธรรมชาติบาป เนื่องจากความบาปของอาดัมได้แยกมนุษย์ออกจากพระเจ้า (โรม 5:18) แม้แต่การเต็มไปด้วยความบาปก็ไม่ใช่อัตลักษณ์ของเรา มันคือสภาวะของเรา และมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยพระคุณและฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า (โรม 5:19)
► อะไรคือความแตกต่างระหว่างอัตลักษณ์ ของบุคคลกับสภาวะ ของบุคคล?
อัตลักษณ์ของมนุษย์และจริยธรรมส่วนบุคคล 
อัตลักษณ์สำคัญเพราะบุคคลหนึ่งกำหนดมาตรฐานจริยธรรมจากอัตลักษณ์ของเขา จริยธรรมคือหลักการต่าง ๆ ที่ระบุถึงพฤติกรรมว่าผิดหรือถูก ถ้าหากคนหนึ่งคิดว่าเรื่องเพศเป็นอัตลักษณ์ของเขา เขาก็จะเชื่อว่ามันเป็นสิ่งถูกต้อง ที่จะทำตามแนวโน้มทางเพศ
บางครั้งมีคนพูดว่า “ฉันเกิดมาเป็นแบบนี้ มันเป็นธรรมชาติของฉันที่จะทำแบบนี้ ดังนั้นสำหรับฉันแล้วมันก็ไม่ผิด” แต่พระคัมภีร์สอนว่าเราทุกคนเกิดมาพร้อมกับธรรมชาติบาป (โรม 5:12, เอเฟซัส 2:3) ไม่ถูกต้องที่เราจะทำตามธรรมชาติบาปของตัวเองเพียงเพราะมันดูเหมือนเป็นธรรมชาติของเรา
ธรรมชาติบาปของเราไม่ใช่ตัวตนที่เราเป็น ธรรมชาติบาปของเราคือสภาวะของเรา เรื่องเพศไม่ใช่ตัวตนของเรา แต่การสร้างขึ้นในพระฉายของพระเจ้าต่างหากที่คือตัวตนของเรา ถ้าหากเรายอมรับความเป็นจริงนี้ เราก็จะตระหนักว่าพระเจ้าเป็นคนตัดสินใจว่าอะไรผิดอะไรถูก และเราต้องรับผิดชอบต่อพระองค์ อัตลักษณ์ของเราช่วยให้เราเข้าใจมาตรฐานที่ถูกต้องสำหรับพฤติกรรมที่บริสุทธิ์
► บุคคลหนึ่งจะเข้าใจเรื่องอัตลักษณ์ของเขาว่ามีผลกระทบต่อจริยธรรมของเขาได้อย่างไร?
ความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องเพศสภาพ 
เราคุ้นเคยกับข้อเท็จริงที่ว่ามนุษย์และสัตว์มากมายแบ่งออกเป็นเพศผู้และเพศเมีย เราอาจสรุปว่าพระเจ้าเป็นเพศชายหรือเพศหญิง แต่นั่นเป็นการสรุปผิด พระเจ้ามีสภาพธรรมชาติที่มากกว่าเป็นเพศสภาพ พระองค์ดำรงอยู่ก่อนที่จะมีเพศสภาพ มนุษย์ทั้งสองเพศมาจากพระฉายของพระเจ้า (ปฐมกาล 1:27) เพศสภาพทั้งสองของมนุษย์เป็นการแสดงออกถึงพระฉายของพระเจ้า
พระฉายของพระเจ้าไม่ใช่บางสิ่งที่ถูกรวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติมนุษย์ พระฉายของพระเจ้าไม่ได้เป็นเพียงคุณลักษณะบางอย่างที่มอบให้กับเรา เช่น ความสามารถในการรัก ความซาบซึ้งในความงาม และความเข้าใจว่าอะไรผิดอะไรถูก ธรรมชาติทั้งหมดของมนุษย์สะท้อนพระฉายของพระเจ้า ไม่มีสิ่งใดนอกจากพระฉายของพระเจ้าที่สามารถถือว่าเป็นแก่นแท้ของการมีชีวิตอยู่ของเรา เราเป็นสิ่งทรงสร้างตามพระฉายของพระเจ้าตั้งแต่แรก ไม่ควรปล่อยให้มีรายละเอียดใดของสภาวะของมนุษย์กลายมาเป็นอัตลักษณ์แท้จริงของเราหรือมาเป็นมาตรฐานทางจริยธรรมของเรา
พระเจ้าเลือกให้แต่ละคนมีเพศสภาพอะไร นั่นเป็นแผนการของพระองค์ว่าจะให้คนนั้นสำแดงพระฉายของพระองค์แบบไหน บางคนปฏิเสธที่จะยอมรับเพศสภาพที่พระเจ้าให้พวกเขา พวกเขาอาจพยายามใช้ชีวิตเป็นคนที่มีเพศสภาพตรงกันข้าม บางคนถึงกับพยายามผ่าตัดเปลี่ยนแปลงร่างกายของเขา การแปลงเพศนี้ทำลายการทรงสร้างของพระเจ้า เพราะคน ๆ หนึ่งไม่สามารถเปลี่ยนเพศสภาพอย่างแท้จริงได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย แต่ละคนเป็นเพศชายหรือเพศหญิงโดยทางธรรมชาติของคนนั้น ไม่ใช่โดยทางกายภาพ พระเจ้าต้องการให้เราถวายเกียรติพระองค์และสะท้อนพระฉายของพระองค์ในเพศสภาพที่พระองค์ให้เราไว้แต่ละคน
                                     
                                    
                                    
                                        
                                                                                                                                    
                                                
                                                     
                                                    Previous
                                                 
                                                                                    
                                                                                                                                    
                                                
                                                    Next