ส่วนที่ 4 ของพระธรรมโรม (โรม 6-8) เกี่ยวกับการชำระให้บริสุทธิ์ของบรรดาผู้ที่ถูกนับว่าเป็นคนชอบธรรม
จนถึงตอนนี้ เปาโลกล่าวเกี่ยวกับฐานะที่ชอบธรรม  นี่เป็นความชอบธรรมที่มอบให้แก่ผู้เชื่อเพื่อแทนที่บาปในอดีตของเขา ตอนนี้เขาเริ่มต้นอธิบายถึงชีวิตที่ชอบธรรม  โดยพระคุณ พระเจ้ามอบชีวิตที่ชอบธรรมให้ในวินาทีที่ถูกนับว่าเป็นคนชอบธรรรมด้วยเช่นกัน นี่หมายความว่าผู้เชื่อกลายเป็นคนชอบธรรมอย่างแท้จริงโดยได้รับอิสระจากอำนาจของบาป และได้รับความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้ดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์ ด้วยเหตุนี้ผู้เชื่อจึงไม่ได้ถูกนับว่าบริสุทธิ์เท่านั้น แต่เขาได้รับการทำให้บริสุทธิ์ นี่เรียกว่าเป็นการชำระให้บริสุทธิ์
ในบทเรียนนี้เราจะศึกษาพระธรรมโรม 6 ซึ่งเกี่ยวกับชัยชนะเหนือบาป
ประเด็นหลักของบทที่ 6 
ผู้เชื่อเป็นอิสระจากพันธนาการแห่งบาป และต้องเลือกที่ดำเนินชีวิตอย่างมีชัยชนะเหนือบาปและด้วยการเชื่อฟังพระเจ้า มิฉะนั้นแล้ว เขาจะกลับมาตกอยู่ใต้การควบคุมของบาปอีก
บทสรุปของบทที่ 6 
พระธรรมโรม 6 เป็นการตอบสนองของเปาโลต่อความคิดผิด ๆ ที่คนจำนวนมากมีอยู่ นั่นคือ ความคิดผิด ๆ ที่ว่า พระคุณทำให้ผู้เชื่อไม่จำเป็นต้องดำเนินชีวิตด้วยการเชื่อฟังธรรมบัญญัติของพระเจ้า ความผิดพลาดนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับพระคุณ เปาโลตอบสนองต่อความผิดพลาดนี้โดยถามและตอบคำถามโดยสมมุติสองข้อ (โรม 6:1, 15)
เวลาที่บางคนอ่าน โรม 5:20 พวกเขาให้เหตุผลว่า เราควรทำบาปต่อไป เพื่อเราจะได้รับพระคุณมากขึ้น (โรม 6:1) ดูเหมือนพวกเขาคิดว่า เมื่อบันทึกแห่งบาปของเราถูกแทนที่ด้วยฐานะที่ชอบธรรมแล้ว ดังนั้นก็ไม่สำคัญถ้าหากเราจะทำบาปอยู่เรื่อย ๆ
มีอีกเหตุผลหนึ่งที่บางคนคิดว่า ผู้เชื่อไม่จำเป็นต้องดำเนินชีวิตด้วยการเชื่อฟังธรรมบัญญัติของพระเจ้า พระเจ้าทรงยอมรับเราโดยพระคุณ ไม่ใช่โดยการกระทำต่าง ๆ ของเรา นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาคิดผิด ๆ ว่า สิ่งที่เราทำไม่สำคัญ (โรม 6:15)
เปาโลปฏิเสธการให้เหตุผลของคำถามโดยสมมุติทั้งสองข้ออย่างหนักแน่น เขาตอบสนองด้วยคำอธิบายว่า เพราะอะไรชัยชนะเหนือบาปจึงสำคัญยิ่ง
► ให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่านพระธรรมโรม 6 ให้กลุ่มฟัง
หมายเหตุ ศึกษาไปทีละข้อ 
(โรม 6:1) เปาโลถามคำถามที่บางคนอาจถามหลังจากได้ยินว่าพระคุณอุดมมากกว่าบาป บางคนอาจคิดว่าจริง ๆ แล้วบาปมีผลลัพธ์ที่ดีเพราะทำให้ได้รับพระคุณมากขึ้น ความคิดนี้คือเรามีอิสระที่ดำเนินชีวิตอย่างฉาบฉวยอยู่ในบาป
(โรม 6:2) อัครทูตเปาโลตอบสนองต่อคำถามเหล่านี้อย่างรุนแรง เขาอธิบายว่า เป็นไปไม่ได้ที่เราจะดำเนินชีวิตอยู่ในบาปต่อไป เพราะเราตายต่อบาปแล้ว
(โรม 6:3-5) เราไม่ดำเนินชีวิตอยู่ในบาปต่อไป เพราะเราเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสต์ในการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ อย่างที่ โรม 5:15-19 อธิบาย พระเยซูทำให้พระราชกิจแห่งความรอดสำหรับเราทุกคนสำเร็จแล้ว โดยความเชื่อ เราเชื่อมต่อกับพระองค์ ด้วยเหตุนี้ความโปรดปรานของพระเจ้าจึงถูกเสนอให้แก่เราอย่างที่ได้ถูกเสนอให้แก่พระคริสต์
พระเยซูสิ้นพระชนม์ต่อบาปเพียงครั้งเดียว จากนั้นพระองค์มีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเป็นไปเพื่อบาปของเรา ไม่ใช่เพื่อบาปของพระองค์ แต่ประเด็นก็คือปัญหาเกี่ยวกับบาปได้จบสิ้นลงแล้ว โดยความเชื่อ เราได้ตายและเป็นขึ้นกับพระองค์ ดังนั้นเราจึงจบสิ้นลงพร้อมกับบาป
พิธีบัพติศมาเป็นการจำลองเหตุการณ์การสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู ซึ่งเป็นเครื่องหมายถึงการมีส่วนร่วมของเรา
(โรม 6:6) ตัวเก่าเป็นตัวแทนถึงชีวิตก่อนการกลับใจใหม่ที่เต็มไปด้วยบาป (ส่วนย่อยท้ายในบทเรียนนี้อธิบายถึงแนวคิดเกี่ยวกับตัวเก่า) ชีวิตแห่งบาปจบสิ้นลงโดยสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นเราไม่ได้เป็นทาสของบาปอีกต่อไป
สังเกตคำต่าง ๆ ที่ใช้ในพระคัมภีร์ตอนนี้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับบาป มันตายแล้ว ถูกตรึง และถูกทำลาย คำต่าง ๆ สื่อสารถึงชัยชนะโดยสมบูรณ์เหนือบาป 
(โรม 6:7-11) พระคัมภีร์ข้อเหล่านี้เน้นว่า การควบคุมของบาปจบสิ้นลงแล้วสำหรับผู้เชื่อ ภาพอธิบายประกอบคือความตาย คนที่ตายแล้วก็เป็นอิสระจากบาป และเราต้องมีประสบการณ์ฝ่ายวิญญาณที่เป็นเหมือนกับความตาย
หลังจากการฟื้นคืนพระชนม์ พระเยซูไม่ได้สิ้นพระชนม์อีกและไม่ได้ยังคงสิ้นพระชนม์ต่อไปอีก พระองค์เสร็จสิ้นกับความตายแล้ว เราต้องตายโดยสมบูรณ์ต่อบาปและเสร็จสิ้นกับบาปและเป็นอิสระจากบาป ความตายต่อบาปคือการเสร็จสิ้น จากนั้นเราจึงมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า
การรวมเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสเตียนกับการสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์ต่อบาป การฝัง และการฟื้นคืนพระชนม์ที่ตามมา ซึ่งเปาโลอธิบายในโรม 6:1-23 ปลดปล่อยคริสเตียนให้เป็นอิสระจากอำนาจและการตกเป็นทาสแห่งบาป คริสเตียนได้รับการประกาศว่าตายต่อบาป (โรม 6:2) และเป็นอิสระจากบาป (โรม 6:7) การตายต่อบาปคือไม่อยู่ใต้อำนาจหรือการควบคุมของบาปอีกต่อไป โดยความเชื่อ ผู้เชื่อต้องมองตนว่าตายต่อบาป แต่มีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าในพระเยซูคริสต์ (โรม 6:11) นี่หมายความว่า 
คริสเตียนต้องทำให้ประสบการณ์ส่วนตัวที่พระเจ้าประกาศนั้นเป็นจริงสำหรับเขา เขาต้องไม่ยอมให้บาปควบคุมร่างกายของเขา (โรม 6:12) หรือใช้อวัยวะในร่างกายของเขาเป็นเครื่องมือแห่งความชั่วร้ายอีกต่อไป (โรม 6:13ก) แต่เขาต้องนำเสนอตนเองว่าเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตบริสุทธิ์ เป็นที่ยอมรับได้ต่อพระเจ้า (โรม โรม 12:1) และให้อวัยวะของเขาเป็นเครื่องใช้ในการชอบธรรม (โรม 6:13, 19)[1] 
ในพระธรรม โรม 6:11 คำว่า ถือว่า  เป็นคำศัพท์ทางหลักการบัญชี เป็นการรับรองถึงสิ่งที่จริง ไม่ใช่คำกล่าวเสแสร้ง เปาโลไม่ได้กำลังบอกผู้เชื่อให้กล่าวถึงบางสิ่งที่ไม่จริง ผู้เชื่อควรตระหนักว่า ถ้าหากเขาตายแล้ว ตัวเขาก็ได้รับการช่วยให้รอดพ้นอย่างสมบูรณ์จากบาป และเขาเองก็ควรเลือกที่จะดำเนินชีวิตอย่างเป็นอิสระโดยสมบูรณ์จากอำนาจของบาป
► การถือว่าตัวคุณตายต่อบาปมีความหมายว่าอะไร?
ส่วนที่เหลือของบทนี้อธิบายถึงอีกเหตุผลหนึ่งที่ชัยชนะเหนือบาปสำคัญยิ่ง เราไม่ใช่ทาสของความบาป แต่เป็นทาสของพระเจ้า คุณไม่อาจรับใช้ทั้งสองฝ่ายได้ เมื่อคุณเป็นทาสต่อบาป คุณก็ไม่ได้ทำความชอบธรรม (โรม 6:20) ตอนนี้คุณเป็นอิสระจากบาปและเป็นทาสของพระเจ้า ดังนั้นคุณจึงดำเนินชีวิตอยู่ในความบริสุทธิ์ (โรม 6:22) 
(โรม 6:12-13) ตรงนี้เราเห็นถึงความแตกต่าง ถ้าหากเราไม่มีชัยชนะเหนือบาป บาปจะควบคุมเรา ผู้เชื่อไม่ถูกควบคุมโดยราคะตัณหา การใช้ร่างกายของเขาเพื่อการกระทำผิดต่าง ๆ ก็เป็นยอมต่อสิทธิอำนาจของบาป แต่ร่างกายของเขาเป็นของพระเจ้าและควรใช้ร่างกายนั้นเพื่อพระองค์
(โรม 6:14) การอยู่ใต้ธรรมบัญญัติหมายถึง พึ่งพาการทำตามธรรมบัญญัติเพื่อให้พระเจ้ายอมรับ  คน ๆ นั้นก็ปราศจากพระคุณที่ช่วยให้รอด ดังนั้นเขาจึงได้รับการพิพากษาบนพื้นฐานของการงานต่าง ๆ เพราะว่าไม่มีใครซึ่งปราศจากพระคุณจะมีชัยชนะเหนือบาปได้ การอยู่ใต้ธรรมบัญญัติหมายถึงการถูกลงโทษและตกอยู่ใต้อำนาจของบาป การอยู่ใต้พระคุณหมายถึงการพึ่งพาพระคุณเพื่อให้พระเจ้ายอมรับ  คนที่อยู่ใต้พระคุณก็ไม่อยู่ใต้อำนาจของบาป การอยู่ภายใต้ธรรมบัญญัติหรืออยู่ใต้พระคุณไม่ได้อ้างอิงว่าเป็นการอยู่ในพันธสัญญาเดิมหรืออยู่ในพันธสัญญาใหม่
► ให้นักศึกษาอธิบายอีกครั้งด้วยคำพูดของตัวเองว่าการอยู่ใต้ธรรมบัญญัติมีความหมายว่าอะไร
(โรม 6:15) เปาโลถามคำถามที่บางคนอาจถามหลังจากได้ยินว่าเราไม่ได้อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ “เราจะทำบาปเพราะไม่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติได้ไหม?” คนกำลังคิดว่าถ้าหากการที่เราจะเป็นที่ยอมรับต่อหน้าพระเจ้าไม่ได้เกิดขึ้นโดยการเชื่อฟัง ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อฟัง เปาโลตอบสนองต่อคำถามนี้อย่างหนักแน่น
เปาโลไม่ได้อธิบายโดยตรงว่า เพราะอะไรพระคุณจึงไม่ได้ครอบคลุมบาปที่ทำอย่างต่อเนื่องโดยอัตโนมัติ แต่เขาอธิบายว่าคนไม่อาจเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าได้ ถ้าหากตัวเขาอยู่ใต้อำนาจของบาป
(โรม 6:16) เป็นไปไม่ได้ที่จะรับใช้ทั้งพระเจ้าและบาป เพราะว่าเขาเป็นทาสของผู้ที่เขาเชื่อฟัง ถ้าหากเขาเชื่อฟังบาป บาปก็เป็นนายของเขา ซึ่งหมายความว่า พระเจ้าไม่ได้เป็นเจ้านายของเขา ดังที่อัครทูตเปโตรกล่าวว่า สิ่งใดก็ตามที่ครอบงำก็นำเข้าสู่พันธนาการ (2 เปโตร 2:19) เขาไม่อาจอ่อนข้อต่อบาปโดยไม่เป็นทาสต่อบาปได้
(โรม 6:17-18) ผู้เชื่อได้รับการปลดปล่อยจากอำนาจของบาปและตอนนี้รับใช้ความชอบธรรมแล้ว พวกเขามีประสบการณ์ถึงการปลดปล่อยโดยเชื่อฟังข่าวประเสริฐ มีคำแถลงว่า เป็นสิ่งจำเป็นที่คนต้องได้รับการปลอดปล่อยจากบาปเพื่อรับใช้ความชอบธรรม
บทนี้ทั้งหมดนำเสนอถึงความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่างการถูกผูกมัดโดยบาปกับการมีชีวิตอย่างมีชัยชนะ ไม่มีการบอกเป็นนัยใด ๆ ว่าเป็นไปได้ที่ผู้เชื่อจะอยู่ใต้อำนาจของบาป หรือเป็นไปได้ที่คนบาปจะเป็นคนชอบธรรมในขณะที่ยังคงทำบาปอยู่ คงเป็นไปได้ยากที่เปาโลจะหาวิธีกล่าวได้ชัดเจนไปกว่านี้อีก 
(โรม 6:19) เขากล่าวว่า เขากำลังอธิบายด้วยคำศัพท์ของมนุษย์เพื่อให้พวกเขาเข้าใจได้ ก่อนหน้านี้พวกเขาได้อ่อนข้อต่อบาป ซึ่งทำให้พวกเขาถลำตัวทำบาปมากขึ้น ตอนนี้พวกเขาต้องเป็นคนชอบธรรมในการกระทำ ซึ่งจำเป็นต่อความบริสุทธิ์ คนไม่ได้เป็นคนบริสุทธิ์โดยทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่คนก็ไม่ได้บริสุทธิ์ถ้าหากไม่ได้กำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง
► คุณจะอธิบายอย่างไรว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะรับใช้พระเจ้าและดำเนินชีวิตอยู่ในบาปในเวลาเดียวกัน?
(โรม 6:21-23) บาปไม่ได้ก่อให้เกิดผลดี แต่จบลงด้วยความตาย คนบาปได้รับความตายจากการงานของตน ความตายเป็นค่าจ้างของบาป ผู้เชื่อไม่ได้ขวนขวายเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร์ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับชีวิตนิรันดร์โดยการขวนขวาย เขาได้รับเป็นดั่งของขวัญแห่งพระคุณ
 
[1] ย่อหน้านี้เขียนโดยดร. อัลแลน บราวน์
 
                                     
                                    
                                    
                                        
                                                                                                                                    
                                                
                                                     
                                                    Previous
                                                 
                                                                                    
                                                                                                                                    
                                                
                                                    Next