ภาพแรกในพระคัมภีร์เกี่ยวกับการนมัสการอยู่ในสวนเอเดน “เวลาเย็นวันนั้น เขาทั้งสองได้ยินเสียงพระยาห์เวห์พระเจ้าเสด็จดำเนินอยู่ในสวน...” (ปฐมกาล 3:8) นี่แสดงให้เห็นถึงอุดมคติของพระเจ้าสำหรับการนมัสการคือ การสามัคคีธรรมที่มั่นคงระหว่างมนุษย์กับพระผู้สร้างของเขา ก่อนการล้มลง การสามัคคีธรรมระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าไม่ได้ถูกความบาปขัดขวาง การนมัสการในสวนนั้นเรียบง่ายและไม่ซับซ้อน
ในสวนนั้น เราเห็นว่าพระเจ้าปรารถนาการสามัคคีธรรมกับสิ่งทรงสร้างทั้งหลาย ก่อนจะล้มลงในบาป มนุษย์มีความสุขกับการสามัคคีธรรมกับพระเจ้าอย่างสมบูรณ์ หลังจากทำบาปนั่นเองที่ทำให้ธรรมชาติของมนุษย์เสื่อมลงจนมนุษย์ต้องซ่อนตัวจากพระเจ้า
ตลอดพันธสัญญาเดิม คำว่า เดิน ไปกับพระเจ้าถูกใช้เพื่อแสดงว่าการนมัสการนั้นเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับพระเจ้า เอโนคเดินไปกับพระเจ้า โนอาห์เดินไปกับพระเจ้า อับราฮัมเดินไปกับพระเจ้า (ปฐมกาล 5:24 ปฐมกาล 6:9 ปฐมกาล 17:1) แต่ละตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงบุคคลที่สร้างความสัมพันธ์โดยการใช้เวลากับพระเจ้า การนมัสการที่ถูกต้องตั้งบนพื้นฐานของการมีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า
ปฐมกาล 3:8 แสดงให้เห็นว่าการนมัสการตั้งอยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ และยังแสดงให้เห็นว่าการนมัสการเป็นไปได้โดยพระคุณของพระเจ้าเท่านั้น พระของคนต่างชาติคาดหวังให้มนุษย์หาหนทางสู่การนมัสการอย่างเหมาะสมเพื่อเอาใจพวกพระนั้น ในทางตรงกันข้าม พระเยโฮวาห์มีพระคุณโดยจัดเตรียมวิธีการที่เหมาะสมเพื่อนมัสการ มีภาพตัวอย่างสามภาพที่อธิบายเรื่องนี้
พระเจ้าสร้างการนมัสการให้เป็นไปได้สำหรับอาดัมและเอวา
หลังจากการล้มลงในบาป พระเจ้าไม่จำเป็นต้องแสวงหาหรือแม้แต่ยอมรับการนมัสการจากอาดัมและเอวา พวกเขาฝ่าฝืนกฎบัญญัติของพระเจ้า พวกเขาทำให้สิ่งทรงสร้างของพระองค์เสียหาย พวกเขาไม่สมควรได้รับอะไรเลยนอกจากการพิพากษา
หลังจากพวกเขาทำบาป อาดัมและเอวาซ่อนตัวเองจากการสถิตอยู่ด้วยจองพระเจ้า (ปฐมกาล 3:8) ไม่มีการปฏิบัติอย่างอื่นสำหรับอาดัมและเอวา พวกเขาสามารถคาดหวังได้เฉพาะการตายเท่านั้น การตอบสนองอย่างเดียวที่พวกเขารู้คือต้องซ่อนตัวจากผู้ออกกฎ แต่โดยพระคุณ พระเจ้าองค์เจ้านายได้เรียกอาดัม การนมัสการถูกทำให้เป็นไปได้โดยพระคุณของพระเจ้า โดยตัวของเราเองแล้ว เราไม่มีวิธ๊การใดที่จะเข้าถึงพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ได้ โดยผ่านทางพระคุณของพระองค์เท่านั้นที่เราถูกเรียกให้มานมัสการ
พระเจ้าสร้างการนมัสการให้เป็นไปได้สำหรับอับราฮัม
► อ่านปฐมกาล 18:1-8
ในบทที่ 1 เรามองเห็นว่าหนึ่งในคำภาษาฮีบรูสำหรับการนมัสการ (Shachah ) หมายถึง “ก้มลงกราบ” หรือ “นมัสการ” คำนี้ถูกใช้ครั้งแรกใน ปฐมกาล 18:2 องค์พระผู้เป็นเจ้าและทูตสวรรค์สองตนปรากฏขณะที่อับรามนั่งตรงประตูเต็นท์ของเขา อับรามวิ่งจากประตูเต็นท์ไปพบพวกเขาและก้มกราบลงที่ดิน อับรามฮัมก้มตัวลงกราบ นั่นคือเขานมัสการ
สังเกตได้ว่าพระเจ้าเป็นผู้ริเริ่มในเรื่องนี้ คือพระองค์มาหาอับราฮัม พระเจ้าทำให้การนมัสการเป็นไปได้ ในพันธสัญญาเดิมเหมือนกับในพันธสัญญาใหม่ คือการนมัสการถูกทำให้เป็นไปได้โดยพระคุณเท่านั้น การถวายเครื่องบูชาในพันธสัญญาเดิมไม่ได้เป็นวิธีการเอาใจพระเจ้าขี้โมโหที่ไม่ปรารถนาความสัมพันธ์ สิ่งเหล่านี้เป็นวิธีการที่พระเจ้าคิดค้นเองเพื่อทำให้เกิดการคืนดีระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ที่เต็มไปด้วยบาป แม้ในพันธสัญญาเดิม การนมัสการก็ถูกทำให้เป็นไปได้โดยผ่านทางพระคุณของพระเจ้าเท่านั้น โดยตัวของเราเอง เราไม่มีความสามารถอะไรที่จะนมัสการพระเจ้าอย่างเหมาะสมได้
พระเจ้าสร้างการนมัสการให้เป็นไปได้สำหรับยาโคบ
► อ่าน ปฐมกาล 28:10-22 เรื่องนี้เปิดเผยอะไรเกี่ยวกับบทบาทของพระเจ้าในการนมัสการ?
หนึ่งในภาพที่น่าประหลาดใจมากที่สุดในพระคัมภีร์เกี่ยวกับการนมัสการนั้นอยู่ใน ปฐมกาล 28:10-22 ไม่มีสิ่งใดในอดีตของยาโคบที่แสดงถึงคุณสมบัติของผู้นมัสการเลย เขาไม่มีคุณสมบัติตามที่ระบุใน สดุดี 15 เขาไม่ได้แสวงหาพระเจ้า อันที่จริงแล้วเขาวิ่งหนีปัญหาต่าง ๆ ที่ตัวเขาก่อมันขึ้นจากการกระทำที่เป็นการหลอกลวงของเขาเอง ไม่มีหนังสือใดเกี่ยวกับการนมัสการที่บอกว่า “การนมัสการที่พระเจ้ายอมรับมาจากคนโกงที่วิ่งหนีจากผลที่เขาจะได้รับเนื่องจากความบาปของพวกเขาเอง”
อย่างไรก็ตาม พระเจ้าเปิดเผยพระองค์เองแก่ยาโคบโดยไม่คำนึงถึงความไม่คู่ควรของเขา พระคุณของพระเจ้าทำให้การนมัสการเป็นไปได้แม้แต่กับคนที่ไม่คู่ควรอย่างยาโคบ วาร์เรน วายส์บี (Warren Wiersbe) เขียนว่า “โดยพระคุณ พระเจ้าเข้ามาในเราเมื่อเราคาดไม่ถึงหรือแม้กระทั่งสมควรได้รับ เมื่อการนมัสการสิ้นสุดในการเป็นประสบการณ์แห่งพระคุณ มันก็จะเป็นการสิ้นสุดต่อประสบการณ์แห่งพระสิริ” [1]
โดยผ่านทางพระคุณเท่านั้นที่พระเจ้าจะเชิญเราให้เข้าสู่การสถิตอยู่ด้วยของพระองค์ การนมัสการของเราเป็นการตอบสนองต่อพระคุณของพระองค์ ไม่มีสิ่งที่เราทำในการนมัสการจะคู่ควรกับพระองค์ มีเพียงพระคุณของพระองค์เท่านั้นที่ให้ฤทธิ์เดชแก่เราเพื่อการนมัสการ
เรื่องราวของยาโคบแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างมากอย่างหนึ่งระหว่างการนมัสการพระเยโฮวาห์กับการนมัสการพระเทียมเท็จ ผู้นมัสการพระเทียมเท็จสร้างแท่นบูชาด้วยความพยายามที่จะทำให้พระของพวกเขาพอใจ บนภูเขาคารเมล ผู้เผยพระวจนะของพระบาอัล “ร้องออกพระนามพระบาอัลตั้งแต่เช้าจนเที่ยง กล่าวว่า “พระบาอัล ขอตอบเราเถิด” แต่ก็ไม่มีเสียงและไม่มีใครตอบ แล้วพวกเขาก็เต้นโขยกเขยกอยู่รอบแท่นซึ่งเขาได้สร้างขึ้นนั้น” (1 พงศ์กษัตริย์ 18:26)
► อ่าน 1 พงศ์กษัตริย์ 18:20-39 เพื่อดูความแตกต่างระหว่างการนมัสการที่แท้จริงกับการนมัสการเทียมเท็จ
[2] ผู้เผยพระวจนะของพระบาอัลพยายามกระตุ้นให้พระบาอัลสำแดงตนแก่พวกเขา รูปแบบนี้เห็นได้ซ้ำๆ ในการนมัสการรูปเคารพ แท่นบูชาและเครื่องบูชาต่าง ๆ เป็นการพยายามทำให้รูปเคารพพอใจ
ในทางตรงกันข้าม โดยพระคุณ พระเจ้าเปิดเผยพระองค์เองต่อประชากรของพระองค์ในการนมัสการ เอลียาห์สร้างแท่นบูชาด้วยความมั่นใจเต็มที่ว่าพระเจ้าที่เขารับใช้จะตอบคำอธิษฐานของเขา
ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอล ขอให้เขาทราบเสียทั่วกันในวันนี้ว่า พระองค์คือพระเจ้าในอิสราเอล และข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ และข้าพระองค์ได้ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นตามพระดำรัสของพระองค์ (1 พงศ์กษัตริย์ 18:36)
ในปฐมกาล หัวหน้าครอบครัวสร้างแท่นบูชาไม่ใช่เพื่อทำให้พระเจ้าสนใจ แต่เป็นอนุสรณ์ ณ สถานที่นั่นที่พระเจ้าสำแดงพระองค์เองแก่เขา แท่นบูชาไม่ได้มีไว้เพื่อทำให้พระเจ้าพอใจ แต่เป็นการเฉลิมฉลองพระคุณของพระเจ้า ยาโคบแสดงให้เราเห็นว่าการนมัสการเป็นไปได้ก็โดยทางพระคุณเท่านั้น เราต้องไม่คิดเลยว่าการนมัสการของเราทำให้เราคู่ควรรับความโปรดปรานจากพระเจ้า เรานมัสการก็เพราะพระคุณ
อะไรเกิดขึ้นเมื่อพระเจ้าทำให้การนมัสการเป็นไปได้? ยาโคบได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่ เป็นเวลา 30 ปีก่อนการเปลี่ยนแปลงนี้จะสมบูรณ์ แต่การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นที่เบธเอล การนมัสการ (แม้เป็นการนมัสการที่ไม่สมบูรณ์แบบจากคนที่ไม่ดีพร้อมเช่นยาโคบ) เปลี่ยนเราและทำสิ่งที่เราไม่สามารถทำเองได้แทนเรา
ตรวจสอบ
ถามตัวเองว่า “ฉันได้รับการเปลี่ยนแปลงจากการนมัสการไหม หรือฉันกำลังเคลื่อนไหวอย่างว่างเปล่า? เมื่อใดที่ฉันเปลี่ยนแปลงการกระทำ ความเชื่อ หรือท่าทีครั้งล่าสุดเนื่องจากการเผชิญหน้ากับพระเจ้าในการนมัสการ?”
[1] Warren W. Wiersbe,
Real Worship , (Grand Rapids: Baker Books, 2000), 72
[2]
ในการนมัสการเทียมเท็จ คนสร้างแท่นบูชา
เพื่อทำให้รูปเคารพพอใจ (การงาน)
ในการนมัสการที่แท้จริง คนสร้างแท่นบูชาเพื่อเฉลิมฉลองความโปรดปรานของพระเจ้า (พระคุณ)
Previous
Next